พลอากาศเอก สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ ๙๐๔เป็นประธานเปิดกิจกรรมการเฝ้าระวัง คัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในเรือนจำ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์: ก้าวสู่ 720,000คน/ครั้ง/ปี ณ เรือนจำกลางเชียงใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์  อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ทพญ.จุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค ผู้บริหาร และบุคลากร กรมควบคุมโรค รวมทั้ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลแม่ข่ายให้การต้อนรับ กิจกรรมครั้งนี้จัดโดยสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการโครงการพระราชดำริ โครงการเฉลิมพระเกียรติ และโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์ กรมควบคุมโรค และสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 1 จ.เชียงใหม่ ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ผู้ต้องขังจะเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายและต้องรับโทษในเรือนจำ แต่ผู้ต้องขังที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ต้องได้รับการคัดกรอง ป้องกันโรคและภัยสุขภาพ หรือหากมีอาการเจ็บป่วยต้องเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และได้รับการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว และเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม เพื่อให้ผู้ต้องขังมีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ เมื่อพ้นโทษก็สามารถกลับสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพต่อไป  กิจกรรมฯ ในวันนี้ มีผู้ต้องขังแรกรับ จำนวน 200 คน ได้รับการคัดกรองค้นหาวัณโรค เอชไอวี-เอดส์ ซิฟิลิส และโควิด 19 นอกจากนี้ ยังมีการมอบรองเท้าแก่อาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.) จำนวน 129 คน ถือเป็นจุดเริ่มต้น การน้อมนำพระราชดำริสู่การปฏิบัติ เพื่อเฝ้าระวัง คัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในเรือนจำ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข  ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ : ก้าวสู่ 720,000คน/ครั้ง/ปี ในปีงบประมาณ 2566-67 นี้ ซึ่งผลการเฝ้าระวัง คัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในเรือนจำ นอกจากจะลดโอกาสการระบาดของโรคติดต่อสำคัญในเรือนจำ เช่น วัณโรค เอชไอวี-เอดส์ ซิฟิลิส โควิด 19 ยังช่วยลดโอกาสการระบาดของโรคติดต่อเหล่านี้ย้อนกลับสู่สังคมต่อไป