วันที่ 19 มีนาคม 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดยโสธร เพื่อเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชนและเกษตรกร สนองนโยบาย ทส. ยกกำลัง 2 บวก 4 ปฏิบัติงานเชิงรุก ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างทันท่วงที
กระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จังหวัดอุบลราชธานี รมว.ทส. ได้เป็นประธานมอบหนังสือแสดงป่าชุมชน ให้กับป่าชุมชนระดับจังหวัด จำนวน 40 ป่าชุมชน ในพื้นที่ 20 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับมอบเงินอุดหนุนในโครงการสร้างเศรษฐกิจชุมชนจากป่าชุมชน ให้แก่ 70 ป่าชุมชน ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งป่าชุมชนเหล่านี้ เป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการดูแลรักษาพื้นที่ป่าที่สำคัญ ซึ่ง รมว.ทส. ได้มีนโยบายที่สำคัญ คือ “การอนุรักษ์ กับการพัฒนา จะต้องดำเนินไปควบคู่กัน” อีกทั้ง ป่าชุมชนเหล่านี้จะเป็นป่าต้นน้ำ ที่จะแก้ปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดีในอนาคต
กระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับการแก้ปัญหาภัยแล้งนั้น รมว.ทส. ได้เดินทางไปติดตามการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำกุดเมืองฮาม พร้อมระบบกระจายน้ำด้วยพลังแสงอาทิตย์ อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ
ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถช่วยเหลือประชาชนให้ได้มีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้จำนวนกว่า 200 ครัวเรือน ต่อจากนั้น ยังได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ณ บ้านดู่ทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นการขุดเจาะน้ำบาดาลขนาด 6 นิ้ว จำนวน 4 บ่อ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 92 ราย โครงการนี้สามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับเกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านดู่ทุ่ง จังหวัดยโสธรได้ จำนวนมากถึง 728 ไร่
กระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ รมว.ทส. กล่าวทิ้งท้าย ซึ่งได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมกับกล่าวต่อพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับว่า และ “จากนี้ขอให้พี่น้องช่วยกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ดูแลป่าต้นน้ำให้ดี และปลูกพืชใช้น้ำน้อย เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ โดยน้ำทุกหยดนับวันจะหายากและมีค่ามากขึ้น ทรัพยากรน้ำ เป็นสิ่งที่มีความหมายต่อมนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร อุตสาหกรรม และการรักษาระบบนิเวศ ดังนั้น จึงขอฝากประชาชนในพื้นที่ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และให้ช่วยกันปลูกป่า เพื่อให้มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในอนาคต และไม่ต้องมีปัญหาภัยแล้งเหมือนที่ผ่านมา”