รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่กระทรวงสาธารณสุข สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ลงนามในหนังสือรับหน้าที่ พร้อมรับฟังการดำเนินงานและมอบแนวทางการดำเนินงาน

เช้าวันนี้ (18 กรกฎาคม 2562) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความเป็นสิริมงคล มอบแนวทางการทำงานให้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อประเทศและประชาชนคนไทย หลักในการทำงานช่วงแรกระหว่างรอการแถลงนโยบายของพณฯนายกรัฐมนตรี ต่อรัฐสภา ประการสำคัญคือขอให้เร่งรัดงานสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อเป็นการถวายและเทิดพระเกียรติให้ประชาชนได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทำเพื่อประชาชน โดย ขอน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่16 กรกฎาคม2562 มอบให้ทุกท่านเป็นแนวทางการทำงาน ดังนี้ “งานใดๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆ ก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และ
เข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและ
มีความเข้มแข็งอดทน”

ในเรื่องการบริการประชาชน ขอเน้นการให้บริการประชาชนที่ดี มีคุณภาพ เพราะเมื่อประชาชนมีสุขภาพที่ดี จะช่วยลดรายจ่ายของภาครัฐ โดยมีสโลแกนว่า “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง ทำให้เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง” ทั้งนี้ จะลงพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้กำลังใจ/รับฟังปัญหา ขอให้การต้อนรับเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นภาระต่อพื้นที่

ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาปฏิบัติงานด้านสุขภาพ โดยจะร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนางานด้านสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องการเห็นมี
3 ประเด็นคือ 1. รณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เน้นการดูแลสุขภาพของตนเอง ป้องกันการเจ็บป่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค 2. พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข ลดความแออัดในโรงพยาบาลทุกระดับ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 3.ใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุข
ให้ประชาชนเป็นเจ้าของข้อมูลทางการแพทย์ของตนเอง มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในทุกหน่วยบริการ