เนื่องด้วยโครงการพอแล้วดี The Creator ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ในการพัฒนานักธุรกิจไทยให้เติบโต พัฒนาภายใต้ “ความพอดี” ทั้งกำไรทางธุรกิจ เกื้อกูลชุมชน เกื้อกูลโลก ตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศาสตร์พระราชา (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) อันนำไปสู่ความเข้มแข็งของธุรกิจ สังคม และโลกในอนาคตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยในปีนี้โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท สมาร์ท คอส จำกัด ซึ่งผู้สนับสนุนทั้งหมด ต่างเชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกิจแบบพอแล้วดีตามแนวคืดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะสามารถสร้างสรรค์ ขับเคลื่อน และพัมนาธุรกิจ สังคม และโลกให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแน่นอนเป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยเฉพาะในภาวะสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่โรคระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนบนโลก

ปีนี้โครงการพอแล้วดี The Creator รุ่นที่ 7 ได้เปิดรับสมัครนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูลทั่วประเทศ และคัดเลือกเพียง 15 แบรนด์เท่านั้น เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Training Workshop) เป็นระยะเวลารวมประมาณ 3 เดือนเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ อบรม และพัฒนาให้เกิด “พอแล้วดี The Creator” ที่จะเป็นผู้นำการสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ให้เกิดการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ร่วมกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยนำทั้งสองศาสตร์มาประสานกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจที่สอดประสานกับวิถีชีวิตและแนวคิดของการทำธุรกิจในโลกใหม่ที่ไม่ได้มองเพียงแค่ผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมและโลก พร้อมที่จะเป็นพลังธุรกิจที่จะขับเคลื่อนผลกำไรให้เกิดกับทั้งธุรกิจตน สังคม และ โลก ไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง

ภายในงานจะมีการเสวนาในหัวข้อ การดำเนินธุรกิจภายใต้ “ความพอดี” นำโดย ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ โครงการพอแล้วดี The Creator พร้อมผู้สนับสนุนโครงการฯ ทั้งยังมีการพูดคุยและแนะนำ พอแล้วดี The Creator รุ่นที่ 7 อีกด้วย

ก้าวสู่ปีที่ 7 กับการพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ภายใต้ “ความพอดี” พัฒนาตนเอง ธุรกิจและสังคมตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ โครงการพอแล้วดี The Creator กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการพอแล้วดี The Creator เกิดจากแนวคิดที่ว่าทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นนักธุรกิจที่เกื้อกูลคนอื่นได้ โดยทั่วไปคนชอบคิดว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคือการทำไร่ทำนาทำสวน นึกถึงแต่เรื่องการทำเกษตรแต่ความจริงที่พระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงสอนไว้ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกรูปแบบของชีวิตและธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน และในปีนี้ทางโครงการฯ มีความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดการสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูลให้ขยายผลออกไปในวงกว้างทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น โดยวางแผนจัด พอแล้วดี สัญจร ขึ้นในเมืองหลักทางธุรกิจใน 4 ภูมิภาคของไทย อาทิ เชียงราย ตรัง สุโขทัย บึงกาฬ หรือ ขอนแก่น และจะจัดภายในเดือน กันยายน – ตุลาคม คาดว่าเริ่มเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าฟังการอบรม ระยะเวลา 2 วันเต็ม ประมาณต้นเดือนสิงหาคม เปิดรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูล ครั้งละไม่เกิน 25 – 30 แบรนด์ ซึ่งใน 2 วันของการอบรม จะเป็นการเรียนรู้ และ ฝึกปฏิบัติการจริงในเรื่องการสร้างแบรนด์ผ่าน   แบรนด์ โมเดล และ การเข้าใจถึงหลักการสำคัญในการทำ Business Model Canvas (BMC) จากวิทยากรระดับประเทศ

โครงการ “พอแล้วดี The Creator” ได้จัดการอบรมมาแล้ว 6 รุ่น ส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 120        แบรนด์ อาทิ  ไร่สุขพ่วง จันทรโภชนา  บ้านไร่ไออรุณ  The Yard Hostel  HOM Hostel & Cooking Club Hug Organic  ข้าวธรรมชาติ  ข้าวเพลงรัก ภูคราม Yano FolkCharm Kaspy Chew Green ว.ทวีฟาร์ม Dose BWILD ISAN บัวลอยกลมเกลียว madaraidee Greenery และอีกมากมาย  ในฐานะ “พอแล้วดี The Creator” ผู้พร้อมจะเป็นผู้สานต่อศาสตร์พระราชา ทำให้สังคมและภาคธุรกิจได้ประจักษ์ว่า ความพอเพียงพอประมาณ และการเกื้อกูลอย่างสมดุลจะสามารถนำพาทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปสู่ความเจริญก้าวหน้าร่วมกันได้ และปีนี้เป็นปีที่ 7 ที่โครงการ “พอแล้วดี The Creator” ได้จัดขึ้นอีกครั้งหนึ่งด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท สมาร์ท คอส ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างนักธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และที่น่าประทับ ใจยิ่งคือได้รับความร่วมมืออย่างสูงยิ่งจากวิทยากรระดับประเทศผู้ล้วนมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ การสร้างแบรนด์ การทำการตลาด ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมสังคม ผู้พร้อมสละเวลาและให้ความรู้ต่อผู้เข้า  ร่วมโครงการทุกคนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง

คุณธี – สุธีร์ ปรีชาวุฒิ เจ้าของสุธีร์ ออร์แกนิก ฟาร์ม จ.จันทบุรี พอแล้วดี The Creator รุ่น 1 กล่าวว่า แนวทางของโครงการพอแล้วดี The Creator คือแนวทางการสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยศาสตร์พระราชา การเข้าโครงการพอแล้วดี ทำให้เรารู้ว่าเราคือใครสามารถเข้าใจตัวเอง เข้าใจบริบทสังคม และเข้าใจโลก ซึ่งยิ่งทำให้ธุรกิจของเราดำเนินไปแบบชัดเจนมากขึ้น การที่ผู้ประกอบการทุกคนได้มีโอกาสเข้าโครงการ คือการเพิ่มศักยภาพและเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองและธุรกิจของตนอย่างยั่งยืนก้าวสู่ปีที่ 7 กับการพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ภายใต้ “ความพอดี” พัฒนาตนเอง ธุรกิจและสังคมตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

คุณชมพู่ กาญจนา ชนาเทพาพร ดีไซเนอร์สาวผู้ก่อตั้ง BWILD ISAN พอแล้วดี The Creator รุ่น 6 กล่าวว่า ครั้งหนึ่งเคยได้ฟังสัมภาษณ์พี่หนุ่ยแล้ว ทำให้ได้คิดว่าคนตัวเล็กๆก็สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ จากความพยายามและความตั้งใจ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการ พอแล้วดี The Creator รุ่น 6  โดยหอบความตั้งใจที่จะเปลี่ยนสิ่งธรรมดาจากอีสานให้กลายเป็นสิ่งพิเศษ ไม่ว่าจะวัสดุ คน วิถีชีวิต หรือสิ่งธรรมดาบ้านๆในสายตาคนอื่น เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้มีคุณค่า ด้วยการใช้ทักษะงานฝีมือ ภูมิปัญญา ความสามารถที่แตกต่างกันของทีมงาน และการร่วมมือร่วมใจของคนต่างวัยในชุมชน เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดการทำธุรกิจที่ไม่มุ่งหากำไรเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งหวังที่จะพัฒนาชุมชน สังคม และคนรอบตัวควบคู่กันไป

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “พอแล้วดี MARKET” นำเสนอการสร้างสรรค์ธุรกิจภายใต้แนวคิด ความพอดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการออกร้านของเหล่า พอแล้วดี The Creator ทั้ง 6 รุ่น จำนวน 18  แบรนด์/ร้านค้า อาทิ Manit Selected Yano Handicraft Bhukram Kaspy ข้าวศรีแสงดาว เย็นตาโฟตีลังกา เป็นต้น มีสินค้าต่างๆ มากมายทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากธรรมชาติด้วยกรรมวิธีที่เคารพธรรมชาติดีต่อผู้ผลิตรวมถึงชุมชนและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญปลอดภัยกับผู้บริโภค และยังมีเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติของไทยซึ่งกระบวนการผลิตก็เป็นไปแบบเกื้อกูลซึ่งกันและกันและไม่ทำลายธรรมชาติทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนอีกด้วย ในการมาเยี่ยมชม “พอแล้วดี MARKET” ผู้เข้าร่วมงานก็จะมีโอกาสที่จะเรียนรู้ เติมเต็ม และทำหน้าที่สานต่อศาสตร์พระราชาอันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของธุรกิจ สังคม และ โลกในอนาคตอีกด้วย