‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON เผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 ทำรายได้จากการขาย 771 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ 40 ล้านบาท หนุนผลงานครึ่งปีแรกของปี 65 มีรายได้จากการขาย1,519  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ 65 ล้านบาท ลุยเดินหน้าออกสินค้าใหม่ในกลุ่มพร้อมรับประทานและขนมขบเคี้ยว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภค 

 นายจรัสภล รุจิราโสภณ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 (เมษายน-มิถุนายน)    บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 771 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลเติบโตจากยอดขายผ่านช่องทางโมเดิรน์เทรด ภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการออกสินค้าใหม่กลุ่มพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภค อาทิ ข้าวผัดแหนมพริกสด ยำหมูยอ และขนมขบเคี้ยวประเภทเนื้อสัตว์แปรรูป (Meat Snack) แบรนด์ ส.อกไก่นรก รวมทั้งยอดขายจากธุรกิจฟารม์สุกรได้รับผลบวกจากราคาตลาดเนื้อสุกรที่สูงขึ้นทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากราคาเนื้อสุกรและเนื้อไก่ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3040% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงทำให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ทำได้ 40 ล้านบาท ลดลง 17.9% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีที่ีผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและปรับโครงสร้างราคาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1/2565 จึงสามารถลดผลกระทบได้บางส่วน สำหรับผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 1,519 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยมาจากยอดขายกลุ่มอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร ซึ่งคิดเป็น 50% ของรายได้จากการขายรวม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ตามการเติบโตของช่องทางร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสามารถวางจำหน่ายสินค้าใหม่ได้ตามแผนงาน และกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป คิดเป็น 35% ของรายได้จากการขายรวม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 7.9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แม้ตลาดส่งออกจะยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยอดขายภายในประเทศมีอัตราการเติบโตทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรดและค้าปลีกแบบดั้งเดิม ประกอบกับ SORKON มุ่งเน้นการขยายผ่านตู้แช่ชุมชนร่วมกับคู่ค้า เพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายตรงให้กับผู้บริโภค

ขณะที่กลุ่มงานฟาร์มสุกร คิดเป็น 13% ของรายได้จากการขายรวม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 55.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจฟาร์มยังคงได้รับผลบวกต่อเนื่องจากราคาตลาดเนื้อสุกรที่ปรับเพิ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 ทำให้ SORKON สามารถบริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบต้นทุนภาพรวมของกลุ่ม ซึ่งมีการลงทุนและเน้นการควบคุมการเลี้ยงสุกรตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ด้านกลุ่มงานร้านอาหาร Quick Service Restaurant (QSR) มีสัดส่วนรายได้ 2% ของรายได้จากการขายรวม มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 8.9% จากสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่อนคลายลง ส่งผลให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการร้านอาหารทั้งผ่านหน้าร้าน และบริการเดลิเวอรี่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกทำได้ 65 ล้านบาท ลดลง 22.2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาเนื้อสุกรและไก่ ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตหลักมีความผันผวนและมีทิศทางสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลโดยตรงกับอัตรากำไรขั้นต้น  รองประธานกรรมการบริหาร SORKON กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายช่องทางการขายมากขึ้น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้เปิดร้านสาขาใหม่ของธุรกิจ QSR ที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อขยายกลุ่มลูกค้า    มีการออกสินค้าใหม่ในกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป  พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการภายใน อาทิ เพิ่มการจัดเก็บ    สต๊อกวัตถุดิบในราคาเหมาะสม การปรับระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อให้ได้ส่วนลดเงินสด รวมทั้งการปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสม เพื่อบริหารความเสี่ยงและลดผลกระทบจากราคาต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น