นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำการดำเนินงานภายใต้นโยบาย “MTL Trusted  Lifetime Partner” ที่พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เมืองไทยประกันชีวิตได้ร่วมกับโรงพยาบาลคู่สัญญาที่เข้าร่วมโครงการ “การให้บริการพบแพทย์และได้รับยาตามคำสั่งการรักษาของแพทย์  ผ่านทางโทรเวชกรรม (Telemedicine)” สำหรับผู้เอาประกันภัยมีโรคเรื้อรังและมีนัดตรวจติดตามการรักษา ทำการขยายระยะเวลาให้บริการถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 เพื่อเป็นการมอบความอุ่นใจ การอำนวยความสะดวก และการลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านให้กับผู้เอาประกันภัย

นอกจากนี้โครงการให้บริการดังกล่าว ยังได้มีโรงพยาบาลคู่สัญญาเข้าร่วมให้บริการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก จำนวน 1 แห่ง คือ  โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ทำให้ปัจจุบันมีโรงพยาบาลคู่สัญญาเข้าร่วมให้บริการ Telemedicine กับเมืองไทยประกันชีวิตแล้วเป็นจำนวน 38 แห่ง โดยผู้เอาประกันภัยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังและมีความประสงค์ใช้บริการ Telemedicine นี้ จะต้องเป็นผู้ป่วยเดิมที่มีประวัติการรักษาในโรงพยาบาลที่ให้บริการตามที่กำหนด โดยเป็นโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องมีการติดตามและต้องได้รับยาต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยบริการดังกล่าวจะครอบคลุมการพบแพทย์ และการสั่งยา ทั้งนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เอาประกันภัยรายบุคคลและรายกลุ่ม ที่มีผลประโยชน์ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และโรงพยาบาลกำหนด)

สำหรับบริการ Telemedicine Samitivej Virtual Hospital  ยังคงให้บริการตามเงื่อนไขปกติ ครอบคลุมทั้ง การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังและการเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเป็นคนไข้เดิมของทางโรงพยาบาล ครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันภัยรายบุคคลและรายกลุ่ม (เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงพยาบาลและกรมธรรม์กำหนด)  โดยสามารถรับบริการ Telemedicine สำหรับผู้ป่วยเรื้อรัง จากโรงพยาบาลคู่สัญญาทั้ง 38 แห่ง โดยผู้เอาประกันภัยที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เมืองไทยประกันชีวิต โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่เข้าร่วมโครงการได้โดยตรง