กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก เผยปีนี้พบผู้ป่วยเกือบครึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือประชาชนสำรวจรอบบ้าน ตรวจดูภาชนะที่มีน้ำขัง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก เผยปีนี้พบผู้ป่วย 5.9 หมื่นราย เกือบครึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน
วันนี้ (27 กันยายน 2561) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำขังในภาชนะต่างๆ ซึ่งยุงลายสามารถแพร่พันธุ์ได้มากขึ้น ขอให้ประชาชนสำรวจรอบบ้านหลังจากฝนตก ตรวจดูภาชนะที่มีน้ำขัง หากพบให้คว่ำทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 25 กันยายน 2561 พบผู้ป่วย 59,104 ราย เสียชีวิต 74 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเรียน อายุ 10 – 24 ปี จำนวน 27,694 ราย คิดเป็นร้อยละ (46.8)
นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนมีความเข้าใจผิด คิดว่าโรคไข้เลือดออกสามารถซื้อยาแผนปัจจุบันมากินเองได้ ทั้งนี้ การซื้อยากินเอง อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลันและไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขน ขา ข้อพับ ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า 6 พื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ 1.โรงเรือน (บ้าน/ชุมชน) 2.โรงเรียน (สถานศึกษา/สถานเลี้ยงเด็กเล็ก) 3.โรงพยาบาล 4.โรงแรม/รีสอร์ท 5.โรงงาน/กลุ่มอุตสาหกรรม และ 6.โรงธรรม (วัด/มัสยิด/โบสถ์) โดยขอให้ประชาชนยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่รกทึบจนเป็นที่เกาะพักของยุงลาย 2.เก็บขยะ เศษภาชนะที่อาจมีน้ำขังไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ 3.เก็บภาชนะใส่น้ำปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422