EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง เดินหน้าสานพลัง 3 สภา ได้แก่ สภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. พร้อมด้วย CMMU สร้างผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่การส่งออก โดยจัดให้มี Ecosystem ที่เสริมสร้างสภาพคล่องทางการเงินให้ผู้ประกอบการ จัดหนักสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 4.5% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ฟรี! ค่าธรรมเนียม แถม! กรมธรรม์ประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาหลักสูตรครบวงจรเสริมสร้างความรู้ผู้ส่งออกไทยให้ก้าวทันโลกยุค Next Normal

EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลัง สานพลังสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. พร้อมด้วย CMMU พัฒนาผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่การส่งออกสู่ยุค Next Normal

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคการส่งออก โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ)  นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ร่วมลงนามใน MOU ดังกล่าว และโครงการความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้วยทักษะและสมรรถนะในโลกการค้ายุคใหม่ โดยมี รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เข้าร่วมลงนามใน MOU ดังกล่าว ร่วมกับ EXIM BANK สภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. ณ ห้องวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ในระบบประมาณ 3.1 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% ขณะที่การจ้างงานของประเทศโดยรวมมีประมาณ 17 ล้านคน เป็นการจ้างงานของผู้ประกอบการ SMEs ถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของการจ้างงานทั้งหมด ดังนั้น การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้และแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกยุคใหม่ จะทำให้ SMEs มีงานทำและรายได้เพิ่มขึ้น ภาคการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับพันธมิตรในครั้งนี้เป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคการเงินการธนาคาร ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจทุกระดับตลอดทั้งห่วงโซ่การส่งออก ทั้งในมิติของเงินทุน องค์ความรู้ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีภูมิต้านทานการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้ภาคการส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้ พร้อมกับวางรากฐานการพัฒนาห่วงโซ่การส่งออกในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พาณิชยนาวี โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นฐานของประเทศตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) การพัฒนาระบบและกลไกภาครัฐและสภาพแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนผู้ประกอบการ การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจรวมถึงภาคเกษตรกรรม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ และการพัฒนาที่สร้างความเข้มแข็งจากฐานรากEXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลัง สานพลังสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. พร้อมด้วย CMMU พัฒนาผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่การส่งออกสู่ยุค Next Normal

โครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคการส่งออก ผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อจาก EXIM BANK ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นส่งออก ผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ อัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 4.5% ต่อปี (ลดดอกเบี้ยจากปกติลง 0.5% ต่อปี) ในปีแรก ฟรี! ค่าธรรมเนียม Front-end Fee โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แถม! กรมธรรม์ประกันการส่งออก EXIM for Small Biz (ฟรี! เบี้ยประกัน 3,000 บาท) อนุมัติสินเชื่อเร็วภายใน 7 วันทำการ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2565
โครงการความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้วยทักษะและสมรรถนะในโลกการค้ายุคใหม่ ผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกสภาหอฯ ส.อ.ท. และ สรท. สามารถสมัครเข้าอบรมหลักสูตรที่  EXIM BANK กำลังพัฒนาร่วมกับ CMMU โดยเนื้อหาอบรมเข้าใจง่าย ระยะเวลาอบรมสั้น และได้ฟังประสบการณ์จริงจากผู้ส่งออกที่ประสบความสำเร็จในการปรับตัวสู่โลก Next Normal ในไตรมาส 3 นี้
ทั้งสองโครงการจะนำไปสู่การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) โดย EXIM BANK จะทำงานร่วมกับทีมประเทศไทยนำพาผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดโลกยุค Next Normal ทั้งทางออนไลน์และรุกตลาดใหม่ โดยเฉพาะ CLMV ประกอบด้วยกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่ง EXIM BANK จัดตั้งสำนักงานผู้แทนใน CLMV ครบทั้ง 4 แห่งแล้ว นำไปสู่การสร้าง Ecosystem วงจรการค้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงกับการพัฒนาในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และประชาคมโลกโดยรวม