ธนาคารไทยพาณิชย์ ตอกย้ำการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างจริงจังตั้งแต่ต้นปีในหลากหลายโครงการ อาทิ มาตรการพักชำระหนี้สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและโรคติดเชื้อโควิด – 19 ผ่านสินเชื่อจากภาครัฐ ( soft loan) โดยอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 2,000 ราย รวมวงเงินสินเชื่อกว่า 20,000 ล้านบาท และยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ตามสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด – 19 ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และด้วยสถานการณ์ที่กำลังเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้นในขณะนี้ จึงเตรียมผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกให้พร้อมเป็นผู้ผลิตของโซ่อุปทานเพื่อรองรับความต้องการของประเทศต่างๆ ทั้งในด้านการผลิตสินค้าและวัตถุดิบจากประเทศไทย ธนาคารจึงส่ง “Super Trade Solution”ตัวช่วยครบทุกเรื่องในการดำเนินธุรกิจส่งออก เพื่อสร้างแต้มต่อให้ธุรกิจแบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งด้านธุรกรรมทางการเงินและด้านอื่นๆ ที่พร้อมช่วยเสริมสภาพคล่อง เพิ่มศักยภาพ ลดต้นทุนและความเสี่ยงของธุรกิจจากการส่งออก และยังช่วยขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมตั้งวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีในกลุ่มผู้ส่งออกจำนวนเกือบ 4,000 ล้านบาทในปีนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาคการค้าต่างประเทศเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญต่างชะลอตัวไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีความยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันนั้นบางประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญกับผู้ประกอบการไทยเองก็กำลังฟื้นตัวและมีความต้องการของอุปทานที่เพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ธนาคารไทยพาณิชย์จึงต้องการเตรียมพร้อม ผลักดัน ช่วยสนับสนุนให้ผู้ส่งออกรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง จึงนำเสนอ Super Trade Solution ตัวช่วยทางธุรกิจครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ทั้งด้านเงินทุนเสริมสภาพคล่อง การบริหารธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการจัดการและควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีแต้มต่อและสามารถรักษาการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายที่เข้ามารุมเร้าในปัจจุบัน ทั้งนี้ในปี 2563 ธนาคารตั้งวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีในกลุ่มผู้ส่งออกจำนวนเกือบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมความคล่องตัวทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ และช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

Super Trade Solution” อัดแน่นด้วยตัวช่วยธุรกิจที่หลากหลาย ประกอบด้วย วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน 50 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักประกัน และยังสามารถจองอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ช่วยลดความสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและช่วยให้รับรู้ต้นทุนที่แน่นอนด้วยค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษด้วยบริการ SME Forward Contract (วงเงินสำรองเพื่อจองอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าสูงสุด 100 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน) และเพิ่มทางเลือกด้วย SCB FX Online บริการซื้อขายเงินตราต่างประเทศได้รับอัตราแลกเปลี่ยนที่สดใหม่แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ยังมีตัวช่วยในการให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่รวดเร็วฉับไว พร้อมช่วยขยายตลาดและคู่ค้าใหม่ ๆ สำหรับการส่งออกด้วย SCB Trade Portal บริการข้อมูลการค้าต่างประเทศครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวของธุรกิจส่งออก ด้วยข้อมูลเชิงลึกทันต่อเหตุการณ์พร้อมรายงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดจากทั่วโลก SCB Trade Club บริการจับคู่ธุรกิจแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับพันธมิตรเพื่อการส่งออกที่มีคุณภาพทั่วโลกผ่านเครือข่าย Trade Club Alliance พร้อมตัวช่วยเพิ่มเติมจากพันธมิตรธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อการเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศจีนบนช่องทางเว็บไซต์อาลีบาบา (Alibaba) อย่างมืออาชีพจาก Feyverly ตัวช่วยด้านโลจิสติกส์ที่ช่วยให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศกลายเป็นเรื่องง่ายในราคาที่คุ้มค่าจาก Veritrans และส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคลจาก Humanica เมื่อสมัครใช้งาน สิทธิพิเศษครบครันเพื่อช่วยให้การส่งออกสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพในเวทีการค้าระหว่างประเทศ ทั้งหมดนี้สำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการจาก Super Trade Solution กับธนาคารไทยพาณิชย์ได้ผ่านทาง https://scbsme.scb.co.th ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 สอบถามเงื่อนไขการขอสินเชื่อและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ และ SCB Business Call Center โทร.0 2722 2222