กรุงเทพฯ  – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดเผยว่า Hattha Bank PCL ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือกรุงศรี ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด แม้เผชิญความท้าทายของสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สะท้อนถึงตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งของ Hattha Bank ในกลุ่มสินเชื่อลูกค้ารายย่อยในประเทศกัมพูชา ด้วยเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการสร้างความเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอาเซียน นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตของ Hattha Bank (ที่ไม่รวมความเสี่ยงจากอันดับเครดิตประเทศของประเทศกัมพูชา) ซึ่งรวมการปรับเพิ่มอันดับเครดิตจากการสนับสนุนของกรุงศรีแล้ว อยู่ที่ “a-” จากการที่ Hattha Bank มีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของกรุงศรี

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอนของตลาดจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา Hattha Bank ยังคงรักษาอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ BBB+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิตคงที่จากทริสเรทติ้งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี และยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานและการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ กรุงศรีได้ให้การสนับสนุนและส่งต่อความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ โดยเฉพาะในด้านธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับ Hattha Bank อย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบระมัดระวัง ทำให้ Hattha Bank สามารถรักษาคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 1.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดซึ่งอยู่ที่ 2.4% และมีระดับการตั้งเงินสำรองที่เหมาะสมตามหลักเกณฑ์รอบคอบระมัดระวังเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงแข็งแกร่งอยู่ที่ 18.74%”

“ในปี 2565 นี้ กรุงศรีเชื่อมั่นว่า Hattha Bank จะสามารถขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง พัฒนาโซลูชันทางการเงินอย่างครบวงจร รวมไปถึงขยายฐานผู้ใช้งานดิจิทัลแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นราว 70% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ราว 78,000 รายในปีก่อนหน้า พร้อมทั้งมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ Commercial Banking Platform เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวกัมพูชาทุกกลุ่ม ขณะเดียวกัน การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกรุงศรี และ Hattha Bank จะช่วยเชื่อมโยงโอกาสและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจไทยที่อยู่ในกัมพูชาและกลุ่มที่ต้องการขยายไปยังประเทศกัมพูชา สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการพาลูกค้าของเราเติบโตในต่างประเทศ (Beyond Thailand) และช่วยขับเคลื่อนให้กรุงศรีสามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากต่างประเทศอยู่ที่ 10% ของกำไรสุทธิทั้งหมดภายในปี 2566”