กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 37.80-38.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 38.37 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 37.92-38.46 โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 16 ปีอีกครั้ง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าในช่วงแรกเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี สื่อรายงานว่าเจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ว่าเฟดคุมเข้มนโยบายมากเกินไป รายงานดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ย่อตัวลงเนื่องจากตลาดมองว่าอาจเป็นสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงหลังเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ผู้ร่วมตลาดคาดว่าทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงเพื่อหยุดยั้งการร่วงลงของเงินเยนจากระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี ทางด้านเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 2,006 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 16,317 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และค่าใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบททดสอบความหวังของตลาดอีกครั้งว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างดุดันต่อไปอีกหลายรอบการประชุมหรือไม่ โดยนักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งละ 75bp เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน แต่ขนาดของการปรับขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.ยังมีความไม่แน่นอนสูง นอกจากนี้ ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะขึ้นดอกเบี้ย 75bp สู่ 1.50% ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีแนวโน้มคงนโยบายผ่อนคลายมากเป็นพิเศษตามเดิมในสัปดาห์นี้ ทางด้านค่าความเสี่ยงด้านการคลังของอังกฤษลดลงหลังคุณซูนัคได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนใหม่ของพรรคอนุรักษ์นิยมเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ซึ่งน่าจะลดความปั่นป่วนในสินทรัพย์สกุลเงินปอนด์ในระยะนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ ธปท.ระบุว่าค่าเงินบาทผันผวนท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก โดยทางการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อนึ่ง เรามองว่าภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วจะทำให้เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวสองทางมากขึ้น อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินหยวนจะจำกัดการฟื้นตัวของค่าเงินบาทได้เช่นกัน