ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า พื้นที่เขาหลัก จ.พังงา มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงาม ประกอบด้วยชายหาด น้ำทะเลที่ใสสะอาด และแนวปะการังซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ และการท่องเที่ยวดำน้ำของจังหวัดนอกจากนี้เขาหลักยังเป็นจุดเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอื่นในจังหวัดอันดามันตอนบน ระนอง ภูเก็ต และอ่าวพังงา เป็นทางผ่านไปสู่แหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ซึ่งหมู่เกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนมาก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบกับแนวปะการัง ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาแนวคิดในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มจุดดำน้ำ เพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดดำน้ำแห่งใหม่ กรม ทช. จึงได้ร่วมกับจังหวัดพังงา มูลนิธิรักษ์เขาหลัก กองทัพเรือ ผู้ประกอบการ และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก ขึ้นในปี 2556 โดยนำเรือรบที่ปลดประจำการ เรือ ต.13 มาจัดวางเริ่มต้น ต่อมาจัดวางปะการังเทียมล้อมรอบ นำยุทโธปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้ว ประติมากรรมต่างๆ มาจัดวางเพิ่ม เพื่อลดผลกระทบจากการดำน้ำต่อแนวปะการัง เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล เพิ่มจุดดำน้ำ เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดพังงา กระทั่งวันนี้

กรม ทช. จับมือมูลนิธิรักษ์เขาหลัก กองทัพเรือ และจังหวัดพังงา จัดตั้งอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก สร้างแหล่งเรียนรู้ เพิ่มจุดดำน้ำ เสริมศักยภาพการท่องเที่ยวทางทะเล จ.พังงานับเป็นนิมิตหมายอันดีจัดพิธีเปิดอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก จังหวัดพังงา ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ในพระดําริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา โดยมีนางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธาน ในการนี้ นายสมพงศ์ ดาวพิเศษ ประธานมูลนิธิรักษ์เขาหลัก พร้อมด้วยพลเรือตรีภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 และนายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อํานวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ตลอดจนผู้บริหารในสังกัดกรม ทช. ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ผู้แทนภาคเอกชน นักดำน้ำอาสาสมัคร นักท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ และสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 100 คน ณ บริเวณสถานที่จัดกิจกรรม โรงแรมลาฟลอร่า เขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อุทยานฯ ใต้ทะเลเขาหลัก เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และวัสดุ อุปกรณ์ที่นำไปจัดวางมีสัตว์น้ำ และสิ่งมีชีวิตเข้าไปอาศัยจำนวนมาก มีปะการังธรรมชาติมากถึง 42 ชนิด ปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ มากกว่า 117 ชนิด มีความสมบูรณ์และสวยงาม เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงเสด็จมาดำน้ำในพื้นที่ และทรงเห็นว่าเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ตามแนวพระดำริในการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เพื่อให้เกิดความยั่งยืนจึงรับสั่งให้กรม ทช. นำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งภายใต้โครงการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทยในพระดำริฯ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินการให้มีความต่อเนื่อง และเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างเต็มความสามารถพื้นที่อุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลักมีประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างฝั่ง 6 กิโลเมตร ที่ระดับความลึกเฉลี่ย 17 เมตร มีนักท่องเที่ยวเข้าไปดำน้ำ 80-100 คนต่อวัน เป็นแหล่งทำประมงของประชาชนในพื้นที่ โดยที่ผ่านมาอุทยานฯ ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้รับทราบทั่วไป และ กรม ทช. ได้เสนอกิจกรรมเปิดอุทยาการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในห้วงวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการติดตั้งป้ายใต้น้ำในพื้นที่ ป้ายประชาสัมพันธ์บนฝั่ง เชิญนักดำน้ำอาสาสมัครเข้าร่วมดำน้ำเก็บขยะ และปลูกปะการังในพื้นที่โครงการ “ดร.พรศรี กล่าว”

กรม ทช. จับมือมูลนิธิรักษ์เขาหลัก กองทัพเรือ และจังหวัดพังงา จัดตั้งอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก สร้างแหล่งเรียนรู้ เพิ่มจุดดำน้ำ เสริมศักยภาพการท่องเที่ยวทางทะเล จ.พังงาด้าน นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวในนามประชาชนชาวจังหวัดพังงา หน่วยงาน และผู้ร่วมดำเนินโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก จ.พังงา ว่า ตนรู้สึกปราบปลื้มที่ได้ร่วมพิธีเปิดอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างยิ่งที่ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ในพื้นที่จังหวัดพังงา และรับอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลักอยู่ภายใต้โครงการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทยในพระดำริ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมรับสนองพระดำริ และจะ ดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายของโครงการ จากคำกล่าวรายงานถือว่าจังหวัดพังงาโชคดีที่มีอุทยานการ เรียนรู้ใต้ทะเล ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำ การจัดกิจกรรมในวันนี้ถือว่ามีความสำคัญที่ทุกฝ่าย ได้แสดงผลความสำเร็จของโครงการ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวได้รับรู้รับทราบอย่างเป็นทางการ โดยพื้นที่นี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ซึ่งเรามีแหล่งท่องเที่ยวทั้งบนบกและในทะเล เกาะแก่งต่างๆ มากมายที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก และจะมีอุทยานใต้ทะเล แหล่งดำน้ำที่มีความน่าสนใจไม่แพ้ที่ใดในโลก ทำให้มีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น และจะเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ที่อยู่ใต้ทะเล สำหรับเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวลงไปเยี่ยมชม อุทยานใต้ทะเล ซึ่งไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นแหล่งผลิตกุ้งหอย ปูปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ ให้กับพี่น้องชาวประมงให้จับสัตว์น้ำมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงถือว่ามีคุณค่าเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย สำคัญที่สุดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านทรงเห็นความสำคัญรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันดูแล รักษา และใช้ให้เกิดความยั่งยืน ตามตามแนวพระดำริที่ทรงห่วงใยและอยากเห็นประชาชนทุกฝ่ายมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงความสมบูรณ์สืบไป
กรม ทช. จับมือมูลนิธิรักษ์เขาหลัก กองทัพเรือ และจังหวัดพังงา จัดตั้งอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก สร้างแหล่งเรียนรู้ เพิ่มจุดดำน้ำ เสริมศักยภาพการท่องเที่ยวทางทะเล จ.พังงา

นายสมพงศ์ ดาวพิเศษ ประธานมูลนิธิรักษ์เขาหลัก กล่าวว่า เขาหลักเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพังงา เรามีชายหาดที่ยาวเกือบ 2 กิโลเมตร มีน้ำทะเลที่ใสสะอาดและแนวปะการังที่สวยงาม มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา เขาหลักในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาประมาณ 1 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในจังหวัด และประเทศประมาณ 6,900 ล้านบาท จึงเป็นที่มาในการสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเขาหลัก โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวถือว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เนื่องจากเดิมเป็นพื้นทะเลโล่งๆ ไม่มีปะการังหรือสิ่งมีชีวิตและไม่มีกิจกรรมท่องเที่ยว รวมถึงต้องใช้สรรพกำลังใช้ความพยายามร่วมกันอย่างที่สุดให้เกิดขึ้นมา แต่วันนี้ในพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร ได้กลายเป็นระบบนิเวศใต้ทะเลที่มีความหลากหลายจากการสำรวจล่าสุดของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่ามีปะการัง สัตว์น้ำ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากถึง 150 ชนิดเข้ามาอยู่อาศัย มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกลงไปเยี่ยมชมเกิดความประทับใจ ดังนั้น พื้นที่แห่งนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนเขาหลัก ในการลงไปเยี่ยมชม ศึกษา เรียนรู้ระบบนิเวศสิ่งมีชีวิต พร้อมทั้งให้ทุกคนมีความสุขกับกิจกรรมดำน้ำใต้ทะเล ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก วันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ จึงอยากเชิญชวนทุกท่านที่มาเขาหลักลงไปเยี่ยมชมใต้ท้องทะเล และฝากประชาสัมพันธ์ช่วยกันดูแลท้องทะเลให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาดำน้ำชมความสวยงามของระบบนิเวศใต้ทะเลเขาหลัก จ.พังงา อีกด้วย