วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า ปัจจุบัน CMMU ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านการจัดการ ดำรงวิสัยทัศน์ “Wisdom of the Land in Management Education” มุ่งผลิต “บุคลากรที่มีศักยภาพสูงเพื่อธุรกิจยุคใหม่” ให้สามารถก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือทีมบริหาร หนึ่งในกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ และองค์กรชั้นนำทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกหน่วยธุรกิจทั้งด้านการบริหาร การตลาด การเงิน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติ AACSB ที่มีมหาวิทยาลัยเพียง 5% ของโลกเท่านั้น ที่ได้รับการรับรอง โดยในปี 2564 CMMU มุ่งสะท้อนภาพการเป็น “Modern Business School” หรือวิทยาลัยการจัดการที่ทันสมัย และก้าวทันทุกความเปลี่ยนแปลงของโลก ผ่านการผลักดันหลักสูตรที่ทันสมัย เครือข่ายอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ และงานวิจัยแนวใหม่ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจโลกยุคใหม่ (New Era) อีกทั้งยังพร้อมส่งต่อองค์ความรู้เพื่อพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์

รศ. ดร.วิชิตา กล่าวต่อว่า จุดแข็ง “Modern Business School” ของวิทยาลัยจะสะท้อนผ่าน ใน 3 ด้าน ได้แก่
ด้านหลักสูตรให้มีความทันสมัย ก้าวทันทุกเทรนด์การบริหารอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ครอบคลุมหลักสูตรไทย (Thai Program) และหลักสูตรนานาชาติ (International Program) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาของผู้เรียน และพร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดรอบด้าน ทั้งด้านวิชาการ ด้านทักษะภาษาอังกฤษ ฯลฯ โดยปัจจุบัน CMMU มี 4 หลักสูตร ผู้เรียนจะได้เรียนรู้และเข้าใจการบริหารจัดการครบทุกมิติ พร้อมเปิดโลกทัศน์ให้คนธรรมดา กลายเป็นผู้นำองค์กรหรือผู้บริหารที่มีความสามารถที่ “แตกต่าง โดดเด่น และ เก่งรอบด้าน”

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)โดยล่าสุด หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจสุขภาพ (หลักสูตรไทย) เตรียมเปิดรับนักศึกษาปีแรก ในปีการศึกษา 2564 ภายใต้ความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรจากหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ที่มุ่งผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ให้มีความรู้ทางด้านการจัดการและมีทักษะการเป็นผู้บริหารชั้นนำ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสุขภาพสู่ธุรกิจสุขภาพแถวหน้าระดับประเทศ

สำหรับด้านที่ 2 ได้แก่ด้านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ประกอบด้วย อาจารย์ และศิษย์เก่า ที่ล้วนมีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ มาถ่ายทอดความรู้ใหม่ๆ ด้วยข้อมูลที่ทันสถานการณ์ แม่นยำ พร้อมรวบรวมตัวอย่างงานธุรกิจจากองค์กรชั้นนำทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนให้ผู้เรียนเปิดมุมมองกว้างขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาองค์ความรู้และปรับใช้กับงานหรือธุรกิจของตนเอง เพราะตระหนักดีว่า ภาคธุรกิจในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นในบทบาทสถาบันการศึกษา จึงต้องเป็นจุดเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังได้ปรับแผนการศึกษา เพิ่มทักษะสำคัญให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้ หาโอกาส และปรับเปลี่ยนความคิดไปตามบริบทหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ (Cognitive Flexibility) พร้อมทั้งแนวคิดการจัดการตนเอง (Self-Management) ให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงนอกห้องเรียน นอกเหนือจากทักษะพื้นฐานการรู้คิด (Cognitive Skills) ที่จะพัฒนาไปตามประสบการณ์การใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล

และสุดท้ายคือ ด้านที่ 3 งานวิจัยธุรกิจ วิทยาลัยมีนโยบายในการผลักดันให้นักศึกษา อาจารย์ สร้างสรรค์งานวิจัยขึ้นใหม่ เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและเป็นผู้นำพัฒนาองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลงานวิจัยจากนักศึกษาที่ได้รับความนิยมมีจำนวนมาก อาทิ งานวิจัยเรื่อง “Marketing in the Uncertain World การตลาดของคนอยู่เป็น” รวบรวมปัจจัยหลายด้านที่ทำให้คนไทยเกิดความกังวลและรับรู้ถึงความไม่แน่นอนทั้ง โควิด-19 ปัญหาฝุ่นควัน ฯลฯ งานวิจัยเรื่อง “Momentum Marketing เจาะใจคนชอบแชร์ จุดกระแสการตลาด” งานวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การสร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจ (VACCINES Strategy) เป็นต้น

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับนานาชาติ อาทิ โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยทั่วโลก, Double Degree ร่วมกับ Macquarie University ประเทศออสเตรเลีย, หลักสูตร Strategy and Innovation for Business in Asia (SIBA) สำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยความร่วมมือกับ MIT, Sloan School of Management ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น เพื่อขยายช่องทางการศึกษาในการเรียนรู้ข้อมูลทั่วโลกแก่ผู้เรียน และมีข้อได้เปรียบจากการเรียนรู้วัฒนธรรมในองค์กรที่หลากหลายทั้งในไทยและต่างประเทศก่อนการลงสนามในโลกธุรกิจจริง

โดยในปี 2564 ยังมีการพัฒนาการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ ด้วยกลยุทธ์ “Inside Out – Outside In” ตอบโจทย์ภาคธุรกิจในปัจจุบันและพร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต โดย Inside Out มุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้เฉพาะบุคคล ให้ผู้เรียนนำศักยภาพของตนเองมาพัฒนาใช้ในการเรียนรู้ปัจจุบันตลอดจนในอนาคต ท่ามกลางบรรยากาศภายในวิทยาลัยที่มีความหลากหลาย ด้วยอาจารย์และนักศึกษาที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะที่ Outside In เน้นเสริมทักษะการทำงานร่วมกัน รู้จักระดมความคิดเห็น รับฟังเสียงผู้อื่น และขยายมุมมองต่อสิ่งที่ทำในบทบาทคนภายนอกทุกภาคส่วน อาทิ ลูกค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมทั้งเสริมสร้างพันธมิตรจากทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่การสอนของอาจารย์แบบพลวัตการเรียนรู้ (Learning Dynamic) เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้จากเคสจริงแก่ผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การเรียนการสอน (Education) การทำวิจัย (Research) และการบริการวิชาการ (Academic Service) ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลได้ที่ https://admission.cm.mahidol.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-206-2000