หากย้อนกลับไปปี พ.ศ. 2536 การเปิดตัวของวิทยาลัยดุสิตธานีบนถนนศรีนครินทร์ ถือเป็นเรื่องน่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่โรงแรมสัญชาติไทยมาตรฐานระดับสากลอย่างโรงแรมดุสิตธานีได้ก้าวเข้าสู่แวดวงการศึกษา จากการตั้งปณิธานของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งกลุ่มดุสิตธานี ที่ต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริการอย่างไทยหรือ Thai Hospitality ไปสู่คนรุ่นหลัง และมุ่งหวังว่า คนรุ่นต่อๆ ไปนี้เองที่จะนำพาการบริการอย่างไทยให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก  เวลาผ่านมา 30 ปีเต็ม วิทยาลัยดุสิตธานีได้สืบสานปณิธานของผู้ก่อตั้งมาโดยตลอด ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว และศิลปะการประกอบอาหาร แห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่เปิดสอนทางด้านนี้โดยตรงในระดับอุดมศึกษา โดยได้จัดงานฉลองวันครบรอบการสถาปนาวิทยาลัยดุสิตธานีปีที่ 30 ไปเมื่อเร็วๆ นี้

“วิทยาลัยดุสิตธานีก่อตั้งขึ้นจากปณิธานของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งกลุ่มดุสิตธานีและวิทยาลัยดุสิตธานี เมื่อ 30 ปีก่อน” คุณฟราวเกอะ เกอร์เบนส์ อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานีคนปัจจุบันกล่าว “ในปี 2513 ท่านผู้หญิงชนัตถ์ได้สร้างโรงแรมดุสิตธานีขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบมาตรฐานการให้บริการระดับห้าดาว โดยผสมผสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของไทยเข้าไปด้วย และท่านยังมองการณ์ไกลอีกว่า หากจะนำการบริการที่ได้มาตรฐานโดยผสมผสานความเป็นไทยให้ไปถึงระดับสากลได้นั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับการศึกษาและการฝึกอบรมบุคลากรในด้านนี้ ท่านจึงก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานีขึ้นในปี 2536 เพื่อสร้างมาตรฐานการศึกษาด้านการโรงแรมในประเทศไทย

 

“ในฐานะสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดของไทยที่อุทิศตนเพื่อการจัดการโรงแรมและศิลปะการทำอาหารโดยตรง วิทยาลัยดุสิตธานีจึงยังคงสานต่อวิสัยทัศน์และปณิธานของท่านผู้ก่อตั้ง โดยมุ่งมั่นให้ความรู้และความเชี่ยวชาญแก่คนรุ่นใหม่ที่จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบริการของประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลก และมุ่งหวังว่า วิทยาลัยดุสิตธานีจะไม่เพียงเป็นผู้นำการศึกษาด้านธุรกิจการบริการของไทย แต่ต้องเป็นผู้นำในระดับอาเซียนต่อไปในอนาคต”

วิทยาลัยดุสิตธานี ครบ 30 ปี ปักธงเป็นผู้นำสถาบันการศึกษาด้านโรงแรมและธุรกิจบริการของอาเซียน

นอกเหนือจากการส่งมอบองค์ความรู้สากลโดยผสานความเป็นไทยไปยังรุ่นสู่รุ่นจะเป็นภารกิจหลักแล้ว วิทยาลัยดุสิตธานียังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการในมิติต่างๆ เช่น การจัดงาน ASEAN Hospitality Talent Fair เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการป้อนบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรม การจัดการแข่งขัน DTC Young Chef Challenge 2023 บ่มเพาะความรู้ให้กับเยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยม เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับอุตสาหกรรมบริการ รวมไปถึงโครงการเพื่อสังคมด้วย อาทิ DTC Green College ที่ต้องการสร้างแบบอย่างของสถานศึกษาซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนรอบๆ วิทยาลัย เป็นต้น

นอกจากนี้ วิทยาลัยดุสิตธานียังได้พัฒนาสู่ความเป็นเลิศด้วยการปักธง 4 พันธกิจหลัก ได้แก่ 1) Sustainability การพัฒนาแบบยั่งยืนทั้งด้านทรัพยากรและบุคลากร 2) Integration การบูรณาการสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งระหว่างหลักสูตร หน่วยงานภายใน ไปจนถึงระดับองค์กรกับพันธมิตรภายนอก 3) Digitalization หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านการเรียนการสอนและการทำงาน และแน่นอนว่า การจะเป็นผู้นำในระดับอาเซียนได้นั้นต้องมีความเป็นสากล พันธกิจข้อสุดท้ายจึงเป็น Internationalization โดยพัฒนาหลักสูตรสองภาษาและหลักสูตรนานาชาติ พร้อมปลูกฝัง international mindset ให้นักศึกษาและบุคลากรทุกคน

คุณฟราวเกอะกล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า ด้วยพันธกิจหลักทั้ง 4 ข้อดังกล่าว วิทยาลัยดุสิตธานีจึงเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า จะสามารถผลักดันและขับเคลื่อนวิทยาลัยไปสู่ความเป็นผู้นำระดับอาเซียนได้สมความตั้งใจ