เมืองเฉวียนโจว ในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ มีข้อได้เปรียบในด้านตำแหน่งที่ตั้ง อุตสาหกรรม และสังคม โดยเมืองเฉวียนโจวได้ประกาศคำมั่น เพื่อยกระดับให้ตนเองกลายเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญแห่งเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะเวลา 5 ปี (2564-2568) ฉบับที่ 14 ของเมืองเฉวียนโจว รวมถึงเป้าหมายระยะยาวจนถึงปี 2578 ซึ่งเพิ่งเผยแพร่ไปเมื่อไม่นานมานี้ เมืองเฉวียนโจวมีแผนในการสร้างศูนย์กลางสำคัญสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกัน อันเป็นแพลตฟอร์มสำคัญเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และจุดเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการปฏิรูป การพัฒนา และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านการเปิดกว้างและสร้างข้อได้เปรียบใหม่ ๆ ในเรื่องความร่วมมือและการแข่งขันในระดับสากล
ในแง่ของการพัฒนาช่องทางใหม่สำหรับการเชื่อมต่อเส้นทางสายไหมทางทะเลนั้น เมืองเฉวียนโจวจะสร้างศูนย์กลางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ที่ประกอบด้วยการขนส่งทางหลวง ทางรถไฟ และทางทะเล เพื่อเชื่อมต่อเมืองแห่งนี้เข้ากับภูมิภาคตอนกลางและทางตะวันตกในจีนและประเทศแถบ Belt and Road (B&R) ในขณะเดียวกัน เมืองเฉวียนโจวยังมีแผนในการยกระดับการเปิดกว้างอย่างครอบคลุม ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือกับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ตลอดจนประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ นำประสบการณ์การปฏิรูปที่ได้จากเขตการค้าเสรีนำร่องไปใช้และส่งเสริมต่อ เร่งการผนวกรวมพิธีการศุลกากรข้ามพรมแดน และนำมาตรฐานการปฏิบัติเยี่ยงคนชาติและระบบบริหารจัดการรายการประเภทกิจการต้องห้าม (Negative List) มาใช้กับการลงทุนจากต่างประเทศอย่างเต็มที่
การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนกันเองก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาของเมืองเฉวียนโจว โดยเมืองเฉวียนโจวให้คำมั่นในการสนับสนุนนักธุรกิจจีนในต่างประเทศและองค์กรธุรกิจในพื้นที่ เพื่อร่วมจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ B&R และส่งเสริมการสร้างโครงการลงทุนของชาวจีนในต่างประเทศ นอกจากนี้ เมืองเฉวียนโจวยังเรียกร้องให้มีการยกระดับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านวัฒนธรรมร่วมกับประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ในยุโรป อาหรับ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมขยับขยายวงมิตรสหายทั่วโลกของเมืองเฉวียนโจวให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมืองเฉวียนโจว อยู่ที่ระดับ 1.015 ล้านล้านหยวนในปี 2563 ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของมณฑลฝูเจี้ยนเป็นเวลา 22 ปีติดต่อกันแล้ว และคาดว่าจะแตะหลัก 1.5 ล้านล้านหยวนภายในปี 2568
