SenseTime บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำระดับโลก เปิดตัว SenseTime International AI Innovation Hub ในสิงคโปร์ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ของตนเอง นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นในการฝึกฝนผู้มีความสามารถด้าน AI ในสิงคโปร์ผ่านบันทึกความเข้าใจ (MoU) สองฉบับที่ทำร่วมกับ Business China และ Institute of Technical Education (ITE) ของสิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถด้าน AI ในสิงคโปร์ โดยได้รับเกียรติจากคุณ Sun Xueling รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ เข้าร่วมพิธีเปิดในฐานะแขกกิตติมศักดิ์ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับด้วย

จากการคาดการณ์ที่ว่า AI จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 10-18% และมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573[1] ศูนย์กลางในสิงคโปร์แห่งนี้จะจัดแสดงเทคโนโลยี AI และ Computer Vision ของบริษัท และทำหน้าที่เป็นห้องทดลองที่มีชีวิตเพื่อช่วยภาคธุรกิจในการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ ผ่านระบบอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกั

เพื่อสนับสนุน AI ecosystem ในสิงคโปร์ผ่านการฝึกฝนความสามารถ SenseTime จะร่วมมือกับ Business China และ ITE เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ด้าน AI โดยตรงแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา และผู้คนวัยผู้ใหญ่ในพื้นที่ที่มีความสนใจใน AI เพื่อพัฒนาความสามารถทางเทคนิคของพวกเขา

ดร. Xu Li ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SenseTime Group กล่าวว่า “การที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก และมีศักยภาพในการเติบโตมหาศาลในการเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สิงคโปร์เป็นทำเลงามในเชิงกลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจของ SenseTime ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ก่อตั้งศูนย์กลางของเราในสิงคโปร์ เพื่อปูทางและเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI และนำนวัตกรรมเหล่านี้ไปใช้ในธุรกิจต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ด้วยรากฐานของเราในด้านวิชาการ เราหวังว่าจะนำนวัตกรรมที่เป็นต้นฉบับและเทคโนโลยี AI ที่มีความรับผิดชอบมาใช้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

คุณ Martin Huang กรรมการผู้จัดการ SenseTime International กล่าวว่า “กว่า 70% ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นด้วยว่า AI มีความสำคัญต่ออนาคตของภูมิภาค[1] จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลและผู้ให้บริการ AI ต้องเตรียมความพร้อมให้พนักงานทั่วทั้งภูมิภาคด้วยทักษะด้าน AI ขั้นพื้นฐาน ด้วยเหตุนี้ SenseTime จึงขยายความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการพัฒนาด้าน AI ทั่วทั้งภูมิภาคผ่าน International AI Innovation Hub เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับคนรุ่นต่อไปให้เติบโตในยุคดิจิทัลต้องมาก่อนได้”

การเปิดตัวศูนย์

การเปิดตัวศูนย์แห่งนี้เป็นการปูทางให้ธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทดลองใช้ AI มากขึ้น และค้นหาโซลูชัน AI เพื่อแก้ไขปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงและเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่โลกแห่งดิจิทัล ศูนย์กลางแห่งนี้แบ่งได้เป็น 8 โซนด้วยกัน จัดแสดงการใช้งาน AI ในโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับสถานการณ์เสมือนจริง ความเป็นจริงแบบผสม การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการมีส่วนร่วมของลูกค้า ผู้เข้าชมจะได้รับเชิญให้ดื่มด่ำในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นนำแห่งอุตสาหกรรมของ SenseTime และค้นหาความเป็นไปได้ที่หลากหลายของ AI

ไฮไลท์ของศูนย์ประกอบด้วย

การศึกษา AI

ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับ SenseTime Edu ซึ่งเป็นโซลูชัน AI ด้านการศึกษาที่ครอบคลุมของ SenseTime ในระหว่างการใช้งานจริง ซึ่งประกอบด้วย SenseStudy แพลตฟอร์มการเรียนรู้โมดูลบนเว็บ และโมดูลการเขียนโค้ดเชิงปฏิบัติด้วยหุ่นยนต์ SenseRover Mini และ SenseStorm งานจัดแสดงนี้จะช่วยให้ผู้เข้าชมโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกสอน ได้ค้นพบวิธีปรับแต่งการเรียนรู้ AI ให้เหมาะกับรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียน

ความเป็นจริงเสริมสำหรับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

เพลิดเพลินไปกับโซน SenseMARS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความเป็นจริงเสริม (AR) ของ SenseTime ที่เชื่อมต่อโลกเสมือนจริงกับโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อมอบประสบการณ์และการโต้ตอบที่สดใหม่แก่ผู้ใช้ปลายทาง ผู้เข้าชมสามารถโต้ตอบกับการจำลอง AR ของอาคาร Merlion และ Marina Bay Sands พร้อมถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ได้ เทคโนโลยี AR เหล่านี้ยังใช้เพื่อขับเคลื่อนนิทรรศการพิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงงานศิลปะ เช่น หน้าจอดิจิทัลแบบโต้ตอบ “Smile2Vote” ในงาน Singapore Art Week 2020

เทคโนโลยีความจริงเสริมเพื่อความบันเทิงและการค้าปลีก

โซนสร้างเสริมประสบการณ์ที่มี SenseMARS รองรับการระบุลักษณะการแสดงออกและท่าทางของร่างกายที่มีความแม่นยำสูง แม้ภายใต้สภาพแสงที่ท้าทายเพื่อการโต้ตอบความเป็นจริงแบบผสมอันแนบเนียน ผู้เข้าชมยังจะได้สัมผัสกับความบันเทิง AR และประสบการณ์การค้าปลีกรูปแบบใหม่ ซึ่งรวมถึงการค้นหาเส้นทางเชิงโต้ตอบและการโฆษณา AR ที่เกิดขึ้นได้ด้วยกลไกการเรนเดอร์หลังการประมวลผลอันทรงพลังของ SenseMARS

พัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลกร่วมกับ Business China

เพื่อให้เยาวชนและผู้มีพรสวรรค์ชาวสิงคโปร์รุ่นใหม่มีความสามารถในการสำรวจภูมิทัศน์ AI ในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งช่วยให้เยาวชนและผู้ที่มีพรสวรรค์ชาวจีนทำความคุ้นเคยกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจในสิงคโปร์ SenseTime ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Business China เพื่อร่วมกันจัดหาโอกาสในการฝึกงานและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสำหรับบุคลากรที่มีความสามารถจากทั้งสองประเทศ ภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ SenseTime จะเข้าร่วมโครงการ Youth Interns Exchange Scheme (YES) ระหว่างสิงคโปร์กับจีน เพื่อมอบโอกาสในการฝึกงานแก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษาจากสิงคโปร์และจีนที่สำนักงานในจีนและสิงคโปร์ของ SenseTime ผู้เข้าร่วมจะได้รับประสบการณ์ข้ามพรมแดนที่มีความหมายโดยตรงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เรามอบให้ เช่น โครงการฝึกอบรมและฟอรัมเทคโนโลยีที่จัดขึ้นร่วมกับนักเทคโนโลยีชาวจีนและผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ SenseTime จะเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อแนะนำภูมิทัศน์ทางธุรกิจของจีนให้กับนักศึกษาภายใต้โครงการ Industrial Post-graduate Program (IPP) เพื่อสร้างกลุ่มคนที่มีความสามารถด้วยความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษาของจีน

คุณ Tin Pei Ling ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Business China กล่าวว่า “การฝึกงานนอกจากจะเป็นก้าวแรกสู่สายอาชีพการงานของนักศึกษาแล้ว ยังช่วยบริษัทต่าง ๆ ในการสร้างผู้มีความสามารถรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพด้วย Business China จึงมีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับ SenseTime เพื่อนำเสนอโครงการฝึกงานที่สำนักงานทั้งสองแห่งในสิงคโปร์และจีน โดยนักศึกษาที่อยู่ในสิงคโปร์สามารถลงทะเบียนฝึกงานในจีน และนักศึกษาที่อยู่ในจีนสามารถลงทะเบียนฝึกงานในสิงคโปร์ได้ นี่เป็นโอกาสอันมีค่าในการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถรอบด้านของสิงคโปร์-จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของ Business China ในภูมิทัศน์ AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราเชื่อว่าข้อตกลงนี้จะมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังความสามารถด้าน AI ระดับมืออาชีพและความสามารถในการชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นรวมถึงสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานในสิงคโปร์ จีน และในภูมิภาค สร้างความสะดวกในการทำงานร่วมกันข้ามพรมแดน”

ปลูกฝังความสามารถด้าน AI แก่ผู้คนท้องถิ่น ด้วยความร่วมมือกับ ITE

นอกจากการเปิดตัวศูนย์กลางแห่งนี้แล้ว SenseTime ได้สานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา AI ในสิงคโปร์ ผ่านการลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกับ ITE เพื่อร่วมกันพัฒนาความสามารถด้าน AI สำหรับนักเรียนนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ ในส่วนหนึ่งของบันทึกความเข้าใจระยะเวลาสองปีฉบับนี้ SenseTime และ ITE มีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียน เจ้าหน้าที่ และผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ของ ITE มีความสามารถเชิงเทคนิคด้าน AI ผ่าน

  • การสนับสนุนการสร้างความสามารถด้าน AI สำหรับผู้สอนที่ ITE โดยจัดทำหลักสูตร SenseStudy AI Education ในโครงการ Train-the-Trainer
  • จัดทำโครงการ Enhanced Industrial Attachment สำหรับนักเรียนนักศึกษา ITE เพื่อร่วมงานกับพันธมิตรของ SenseTime ในการสำรวจและทำงานในโครงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (POC) ของอุตสาหกรรม AI พร้อมการฝึกสอนและการให้คำปรึกษา
  • จัดทำโครงการ Continuing Education และ Training สำหรับผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ในสาขา Computer Vision และ Smart City พร้อมใบรับรองเมื่อจบหลักสูตร

คุณ Low Khah Gek ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITE กล่าวว่า “ความร่วมมืออันมีค่านี้จะช่วยให้ ITE สามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ของ SenseTime ด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกและคอมพิวเตอร์วิทัศน์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ให้กับนักเรียน เจ้าหน้าที่ และผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะพัฒนาเส้นทาง AI ของเราด้วยการสนับสนุนจาก SenseTime”