วามมั่นคงและการพัฒนาเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต่างให้ความสำคัญ แต่สิ่งเหล่านี้ต้องหยุดชะงักเพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โรคระบาดรุนแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนณ เมืองซามาร์กันต์ ประเทศอุซเบกิสถาน บรรดาผู้นำจากประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation หรือ SCO) พร้อมด้วยประเทศผู้สังเกตการณ์และคู่เจรจา ได้มาพบปะพูดคุยกันในระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน เพื่อแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ทำอย่างไรนานาประเทศจึงจะทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้นท่ามกลางความท้าทายทั่วโลก  ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เสนอโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและการพัฒนาทั่วโลก โดยอาศัยภูมิปัญญาของจีนในการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งข้อเสนอของเขาได้รับการยกย่องจากประชาคมโลก ไม่ใช่แค่จากสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เท่านั้น

ความมั่นคงและการพัฒนาร่วมกันเพื่อทุกคน

 ในการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้นำเสนอแผนความมั่นคงโลก (Global Security Initiative หรือ GSI) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยึดความมั่นคงเป็นแนวทางหลัก การเคารพซึ่งกันและกันเป็นข้อกำหนดพื้นฐาน ความมั่นคงที่ไม่อาจแบ่งแยกได้เป็นหลักการสำคัญ และการสร้างประชาคมที่มีความมั่นคงเป็นเป้าหมายในระยะยาว เพื่อส่งเสริมความมั่นคงรูปแบบใหม่แทนที่การเผชิญหน้า รวมถึงสนับสนุนความเป็นพันธมิตรและแนวทางที่ไม่ต้องมีผู้แพ้-ผู้ชนะ ผ่านการเจรจา การร่วมมือ และการสร้างประโยชน์เพื่อทุกฝ่ายในระหว่างการประชุมทวิภาคีกับผู้นำระดับโลก ณ เมืองซามาร์กันต์ ประธานาธิบดีจีนได้เน้นย้ำว่าประเทศต่าง ๆ ควรสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตย ความเป็นอิสระ บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์หลักอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนถึงแผนความมั่นคงโลก

นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ยังเรียกร้องให้พยายามปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของภูมิภาค ตลอดจนผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ ในระหว่างการพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่าจีนและรัสเซียจำเป็นต้องยกระดับความร่วมมือภายใต้กรอบพหุภาคี ได้แก่ องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้, การประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย (CICA) และกลุ่มประเทศ BRICS เพื่อส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างฝ่ายต่าง ๆ“ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ของยุคสมัย และของประวัติศาสตร์ จีนจะทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อแสดงความรับผิดชอบในฐานะประเทศใหญ่ และรับบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพในโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงและความสับสนวุ่นวาย” ผู้นำจีนกล่าวกับผู้นำรัสเซียในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ในปี 2564 นายสี จิ้นผิง ได้นำเสนอแผนการพัฒนาโลก (Global Development Initiative หรือ GDI) ซึ่งเน้นการเปิดกว้าง การประสานงาน และการแบ่งปัน

ในระหว่างการประชุมทวิภาคี ณ เมืองซามาร์กันต์ นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจของจีนที่จะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ หลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งประสานกลยุทธ์การพัฒนาร่วมกันอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันบรรดาผู้นำต่างยอมรับแผนความมั่นคงโลกและแผนการพัฒนาโลกในระหว่างการหารือกับผู้นำจีน โดยประธานาธิบดีซาเดียร์ จาปารอฟ ผู้นำคีร์กีซสถาน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขามองว่าทั้งสองแนวคิดริเริ่มนี้มีความสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาโลก ในขณะที่ประธานาธิบดีเซอร์ดาร์ เบอร์ดีมูฮาเมดอฟ ผู้นำเติร์กเมนิสถาน กล่าวว่า แนวคิดริเริ่มดังกล่าวเอื้อต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

มุ่งสู่อนาคตที่ดีกว่า

 ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับคาซัคสถาน รวมถึงระหว่างจีนกับอุซเบกิสถาน ดังนั้น เมื่อวันพุธและวันพฤหัสบดีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการนำพาความสัมพันธ์ทวิภาคีไปสู่ระดับที่สูงขึ้นทั้งอุซเบกิสถานและคาซัคสถานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมโบราณที่เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปเข้าด้วยกัน และปัจจุบันโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สานต่อจิตวิญญาณดังกล่าวไปทั่วทวีปยูเรเชีย ทำให้สมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างจีนกับคาซัคสถานมีมูลค่ารวม 2.525 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 17.6% เมื่อเทียบรายปี ส่วนมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับอุซเบกิสถานอยู่ที่ 8.05 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 21.6% จากปี 2563 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือทวิภาคีสามารถยืนหยัดต้านทานสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ และแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่แข็งแกร่ง

ผู้นำจีนกล่าวกับประธานาธิบดีฆาเซิม-โฌมาร์ต โตกาเยฟ ผู้นำคาซัคสถาน เมื่อวันพุธที่แล้วว่า มิตรภาพที่ไม่มีวันแตกสลายระหว่างจีนกับคาซัคสถานจะช่วยส่งเสริมพลังบวกและความก้าวหน้าของโลก รวมถึงการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติขณะเดียวกัน นายโตกาเยฟได้กล่าวยกย่องการมาเยือนของผู้นำจีนว่าเป็นก้าวใหม่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์คาซัคสถาน-จีน พร้อมกับเสริมว่าโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้กลายเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติส่วนทางด้านประธานาธิบดีชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ผู้นำอุซเบกิสถาน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การมาเยือนของประธานาธิบดีจีนเป็นเหตุการณ์ “ประวัติศาสตร์” ซึ่งจะช่วยกระชับมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างทั้งสองประเทศ กำหนดแนวทางสำหรับความร่วมมือในอนาคต และยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทวิภาคีไปสู่ระดับที่สูงขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น และมีโอกาสมากขึ้น  ในระหว่างการพูดคุยกับผู้นำคนอื่น ๆ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและประเทศในเอเชียกลางมีอนาคตร่วมกันและมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างลึกซึ้งในด้านความมั่นคงและเสถียรภาพของกันและกัน พร้อมกับเรียกร้องให้พยายามสร้างระบบธรรมาภิบาลระหว่างประเทศที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น