รายงานโดย iChongqing  การประชุมนานาชาติว่าด้วยการค้าและการลงทุนภาคตะวันตกของจีน ครั้งที่ 4 (The Fourth Western China International Fair for Investment and Trade หรือ WCIFIT) และการประชุมความร่วมมือนานาชาติว่าด้วยโครงการเชื่อมโยงฉงชิ่ง-ระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ ประจำปี 2565 (2022 CCI-ILSTC International Cooperation Forum) ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ณ นครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน  ผู้ทรงเกียรติและผู้เชี่ยวชาญจากทุกอุตสาหกรรมได้มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการส่งเสริมบทบาทของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค รวมถึงนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านทางระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-sea Trade Corridor หรือ ILSTC)  “การเชื่อมโยงกันคือหัวใจสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทาน และการมองเห็นภาพอย่างชัดเจนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ” คุณโจเซฟีน เตียว (Josephine Teo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร และรัฐมนตรีคนที่สองของกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าว

“การท่าเรือแห่งสิงคโปร์ และการท่าเรือและโลจิสติกส์แห่งนครฉงชิ่ง ได้เริ่มทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเชื่อมโยงระหว่างประเทศจีน-สิงคโปร์ (ฉงชิ่ง)” คุณเตียวกล่าว “เมื่อโครงการนี้ประสบผลสำเร็จ บริษัทชิปปิ้งและเจ้าของสินค้าสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น”

คุณโก ชุน เก็ง (Kho Choon Keng) ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมจีนแห่งสิงคโปร์ กล่าวว่า โครงการเชื่อมโยงฉงชิ่ง-ระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงระเบียงการค้าเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของการพัฒนาร่วมกันด้วย“ความร่วมมือจีน-สิงคโปร์มีการพัฒนาในหลายระดับ ทั้งในเชิงอุตสาหกรรม การขยายเมือง และความยั่งยืน และตอนนี้ก็ตามทันคลื่นของการพัฒนาในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ” เขากล่าว  ทั้งนี้ ดัชนีการพัฒนาประจำปี 2564 (2021 Development Index) และช่องทางการดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (International Trade Single Window) ของระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ในภาคตะวันตกของจีน ได้รับการเปิดเผยหลังการประชุมครั้งนี้

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดัชนีการพัฒนาระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ประจำปี 2564 อยู่ที่ระดับ 112.9 โดยตัวบ่งชี้หลักสามประการ ได้แก่ ขนาด คุณภาพ และความสามารถในการแข่งขัน ต่างมีการเติบโต ขณะที่การดำเนินงานในภาพรวมของระเบียงการค้าก็พัฒนาไปสู่ระดับใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลเชิงบวกที่มีต่อการพัฒนาภูมิภาคต่าง ๆ ตามแนวระเบียงการค้า  ในการประชุมครั้งนี้ นครฉงชิ่งและมณฑลเสฉวนได้ลงนามในโครงการใหญ่ 71 โครงการ โดยมีมูลค่าการลงทุนตามสัญญารวม 2.2703 แสนล้านหยวน (3.353 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ครอบคลุมในส่วนของยานยนต์พลังงานใหม่ สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ ชีวการแพทย์ และการเงินสมัยใหม่ ทั้งนี้ มีบริษัทรวม 1,212 แห่ง จาก 26 ประเทศและดินแดนเข้าร่วมงานนี้

นอกจากนี้ บริษัทที่ติดอันดับฟอร์จูน 500 (Fortune 500) ได้นำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาจัดแสดงภายในงาน โดย อีเบย์ (eBay), แอมะซอน (Amazon), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), กูเกิล (Google) และ ไอเลสโก (Ailesco) รวมถึงบริษัทอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนหลายแห่งได้มาร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และความก้าวหน้าล่าสุดภายในงาน