กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (11 มีนาคม 2565) – Harley-Davidson® ประกาศเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สองรุ่นใหม่จากตระกูลทัวร์ริ่ง พร้อมกันในประเทศไทย อันได้แก่ Street Glide® ST และ Road Glide® ST พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของรถมอเตอร์ไซค์ที่บรรจุสัมภาระได้ ผสานเข้ากับสไตล์ที่โดดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle® Factory โดยรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแห่งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 117 แบบ V-Twin พร้อมผสานสไตล์ดุดันแบบตะวันตกด้วยเสน่ห์แห่งสีดำและบรอนซ์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแกรนด์อเมริกันทัวร์ริ่งทุกรุ่น จะเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยความสะดวกสบายให้กับเหล่านักขับขี่ เพื่อให้การเดินทางนั้นเป็นที่น่าจดจำ

ทั้งนี้ Harley-Davidson® ได้เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่พร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ภายในงานเปิดตัวแบบเสมือนจริง “Further. Faster.” และในวันที่ 12 มีนาคม 2565 ทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson® ในประเทศไทย จะจัดงาน Open House เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จากตระกูลทัวร์ริ่ง พร้อมอีกหลากหลายโมเดล ในรุ่นปี 2022 อาทิ Pan America™ และ Sportster™ S ที่มาพร้อมสีใหม่ สำหรับลูกค้าที่ต้องการชมโฉมจริงของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson® ใกล้บ้านของท่าน และเป็นเจ้าของรถรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นคนแรก ได้ในเสนอราคาเริ่มต้นที่ 560,000 บาท

“Harley-Davidson® ยึดมั่นในการนำเสนอมาตรฐานที่ดีที่สุด ทั้งด้านสมรรถนะ วิศวกรรม และนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรฐานเหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ในไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2022 ด้วยนิยามแห่งสมรรถนะและสไตล์ที่โดดเด่น โดย Harley-Davidson® ได้เห็นถึงกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากเหล่านักขับขี่ในประเทศไทยต่องาน Open House ครั้งที่ผ่านมา และเราก็มั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ก็จะได้รับความสนใจเช่นเคย โดยไฮไลท์หลักของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2022 คือขุมพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ที่ได้รับการพัฒนาด้านกำลังและสมรรถนะมาอย่างเต็มที่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าจดจำ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson®  เราหวังว่าจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่โลดแล่นบนท้องถนนของประเทศไทยในขณะที่นักขับขี่ออกผจญภัยไปกับรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ของพวกเขา” ซาจีฟ รัชเกคาราน กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson® สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย กล่าว

Harley-Davidson® เตรียมต้อนรับ Street Glide® ST และ Road Glide® ST รถมอเตอร์ไซค์ มาดเข้มอันทรงพลัง พร้อมอีกหลากหลายโมเดล รุ่นปี 2022 พร้อมกันในประเทศไทย ยลโฉมรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่อย่างใกล้ชิด พร้อมข้อเสนอเริ่มต้นที่ 560,000 บาท ได้ที่งาน Open House ในวันที่ 12 มีนาคม 2565

 เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117

เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 แบบ V-Twin มาพร้อมการกระจัดและแรงบิดอันทรงพลังจากโรงงานด้วยความจุกระบอกสูบ 117 ลูกบาศก์นิ้ว เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รูปแบบการระบายความร้อนด้วยน้ำมัน มีแรงบิดขนาด 127 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3750 RPM ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสแรงพลังขณะขับขี่และบิดคันเร่งบนท้องถนน เครื่องยนต์ที่มาพร้อมเพลาลูกเบี้ยวประสิทธิภาพสูง ชิ้นส่วนกรองหน้าที่ทำงานได้อย่างไหลลื่น ท่อไอเสียแสดงถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ยังถูกกฎหมายว่าด้วยการปล่อยมลพิษทั้ง 50 รัฐ และคงรักษาเอกลักษณ์ของเสียง Screamin’ Eagle® Performance Parts Stage Upgrades จาก Harley-Davidson® และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ พร้อมให้นักขับขี่สามารถติดตั้งได้ที่ตัวแทนจำหน่ายแบบทางการ เพื่อเพิ่มความเร็วในการขับขี่อย่างเหนือชั้น

รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST

พบกับความเร็วเหนือชั้นจากรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® ที่ทรงพลังและเต็มเปี่ยมด้วยสไตล์แบบตะวันตกเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่กระหายความเร็วไม่รู้จบ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST ได้ผสมผสานพลังของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 กับสไตล์ที่ดุดันแบบตะวันตกและสีเข้มและบรอนซ์อย่างลงตัว แฟร์ริ่งรูปทรงปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson® มาพร้อมช่องระบายอากาศที่ช่วยลดแรงกระแทกของศีรษะและกระบังลมสีเข้มแบบเตี้ย คอนโซลถังน้ำมันระดับต่ำที่มีฝาเติมน้ำมันด้านข้างและการ์ดของเครื่องยนต์ที่เพิ่มเข้ามาให้เป็นความแตกต่างจากทัวร์ริ่งรุ่นอื่น ๆ

ผสานความโดดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle® Factory รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST ถูกนำเสนอด้วยสีดำในแต่ละส่วนของตัวรถ, แผงควบคุม, เครื่องยนต์ และท่อไอเสีย มีเพียงบางส่วนที่นำเสนอด้วยสีสว่างคือท่อก้านกระทุ้งและฝาครอบก้านกระทุ้ง และครีบกระบอกสูบ สีบรอนซ์เข้มด้านบนล้ออลูมิเนียมหล่อแบบ Prodigy แถบสีที่กล่องโยกด้านล่าง เหรียญครอบ และกราฟฟิกบนถังแบบคลาสสิกแสดงให้ถึงความแตกต่างที่ลงตัวของพื้นโทนสีเข้ม มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ Vivid Black และ Gunship Grey ที่บังโคลนด้านหน้าถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตและดูเล็กกว่า และกระเป๋าสัมภาระด้านข้างยาวแบบมาตรฐานมาแทนที่กระเป๋าสัมภาระแบบในรุ่น Street Glide® Special ท่อไอดีแบบ Heavy Breather ที่มีองค์ประกอบเป็นที่กรองอากาศแบบเปิดด้านหน้าเพื่อเสริมทางด้านสมรรถนะ เบาะนั่งแบบเดี่ยวทำให้ Street Glide® ST ดูโฉบเฉี่ยวและดุดัน

โช้คหลังใช้เทคโนโลยีอิมัลชัน ที่สามารถปรับค่าได้ง่ายดายด้วยปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิกเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างลื่นไหล ตะเกียบขนาด 49 มม. พร้อมเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบวาล์วโค้งคู่ ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการหน่วงเชิงเส้น (Linear Damping) เพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น  นอกจากนี้ยังมีเบรก Reflex™ linked Brembo® พร้อม ABS เป็นฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ Boom!™ Box GTS แบบหน้าจอสีสัมผัส ลำโพงคู่ที่ติดตั้งบนแฟร์ริ่ง และเสาอากาศภายในตัว ระบบควบคุมความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่เพื่อความสะดวกสบายของการขับขี่ในระยะทางไกล ไฟหน้าแบบ Daymaker® LED เพิ่มความโดดเด่นด้วยลำแสงสีขาวส่องสว่างบนท้องถนน ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะทำให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีให้อุ่นใจตลอดการขับขี่

รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Road Glide® ST

รถมอเตอร์ไซค์อันโฉบเฉี่ยวอย่างรุ่น Road Glide® ST แสดงถึงสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle® Factory  และเสริมความดุดันด้วยความแรงของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 องค์ประกอบของสไตล์แบบตะวันตกและตัวรถสีมืด-บรอนซ์ทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้ดูโดดเด่นออกมาจากกลุ่ม ความสะดวกสบายของการขับขี่และแฟร์ริ่งแบบทรงฉลามดึงดูดความประทับใจของนักขับขี่ที่ต้องการขับโฉบเฉี่ยวอย่างว่องไวบนถนนเลนกว้าง แฟร์ริ่งทรงจมูกฉลามแบบแอโรไดนามิกที่มีช่องระบายอากาศแบบแยกส่วนคงที่ (Fixed) สามช่องช่วยลดการกระแทกของศีรษะผู้ขับขี่เมื่อขับรถ แฟร์ริ่งอยู่ใต้กระบังลมสีเข้มระดับต่ำและครอบคลุมส่วนไฟหน้าแบบ Daymaker® LED ที่ส่องแสงสว่างออกมาตามเส้นทางขับขี่ การรวมระหว่างการ์ดเครื่องยนต์แบบเตี้ยและถังน้ำมันเข้าด้วยกันเป็นการผสมผสานดีไซน์ที่ลงตัว

เบาะนั่งเดี่ยวโฉมใหม่เผยให้เห็นถึงที่บังโคลนด้านหลังและเพิ่มลุคของการขับขี่ กลิ่นอายสไตล์แบบตะวันตกเริ่มจากกระเป๋ายาวด้านข้างแบบมาตรฐานและที่บังโคลนด้านหน้าแบบตัดขอบ สีดำล้วนจรดทั้งคัน แผงควบคุม เครื่องยนต์ ตลอดจนฝาครอบท่อไอเสียที่สว่างของฝาครอบและครีบกระบอกตัดกับสีดำ ความโดดเด่นที่ตัดกันอีกอย่างคือสีบรอนซ์เข้มแบบด้านบนล้อคอสตอม Progidy, ฝาครอบโยกด้านล่าง, ฝาครอบ สายพาน, ระบบไอดี และลวดลายกราฟฟิกอันคลาสสิกบริเวณถังน้ำมัน รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ Vivid Black และ Gunship Gray ท่อไอดี Heavy Breather ประสิทธิภาพสูงที่ถูกปรับจูน พร้อมชิ้นส่วนตัวกรองอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ของการขับขี่เหนือชั้น

โช้คหลังใช้เทคโนโลยีอิมัลชัน ที่สามารถปรับค่าได้บนปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิกเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างลื่นไหล ตะเกียบขนาด 49 มม. พร้อมเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบวาล์วโค้งคู่ ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการหน่วงเชิงเส้น (Linear Damping) เพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น  นอกจากนี้ยังมีเบรก Reflex™ linked Brembo® พร้อม ABS เป็นฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ รุ่น Road Glide ST มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ Boom!™ Box GTS แบบหน้าจอสีสัมผัส ลำโพงคู่ที่ติดตั้งบนแฟร์ริ่ง และเสาอากาศภายในตัว ระบบควบคุมความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่เพื่อความสะดวกสบายของการขับขี่ในระยะทางไกล ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะทำให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีให้อุ่นใจตลอดการขับขี่

ฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements จาก Harley-Davidson®

ตัวเลือกสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST และรุ่น Road Glide® ST ฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements จาก Harley-Davidson®  เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทรงตัวรถได้เป็นอย่างดีเมื่อเข้าโค้ง ฟีเจอร์นี้เหล่านี้ประกอบไปด้วย:

  • เบรกที่เชื่อมโยงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบ Cornering Enhanced Antilock Braking System (C-ABS)
  • ระบบควบคุมการลื่นไถลขณะเข้าโค้งเมื่อใช้งานโหมดStandard และ Rain
  • ระบบควบคุมแรงบิดไม่ให้ลื่นไถล
  • ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System: TPMS)

 รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster S

รถมอเตอร์ไซค์ Sportster™ S จาก Harley-Davidson®  เป็นรถครุยเซอร์สมรรถนะสูง ที่ได้ผสมผสานพลังอันน่าทึ่งเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสไตล์อันเป็นอมตะ Sportster™ S นี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution™ Max 1250T ขนาด 121 แรงม้า ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ Sportster™ S สามารถควบคุมแรงบิดตามความต้องการ แชสซีของรถคันนี้นั้นมีน้ำหนักเบา ส่วนระบบกันสะเทือนระดับพรีเมียมนั้นช่วยให้รถมีการตอบสนองฉับไว และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสำหรับปี 2022 รุ่นมอเตอร์ไซค์ Sportster™ S มีเฉดสีให้เลือกถึงสามสีด้วยกัน ได้แก่ Vivid Black และ 2 สีใหม่ คือ White Sand Pearl และ Mineral Green Metallic

รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America™ 1250 Special และ Pan America™ 1250

นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 รถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งอย่าง Pan America™ 1250 Special และ Pan America™ 1250 ได้บุกตลาดรถแอดเวนเจอร์อย่างสมศักดิ์ศรี นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ Pan America™ 1250 Special ได้กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในทวีปอเมริกาเหนือ และได้รับรางวัล Best Adventure Bike และ Motorcycle of the Year จาก Motorcycle.com ทั้งนี้ มอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์สุดทน ทรงพลัง และไฮเทค อย่าง Pan America™ 1250 ได้รับการออกแบบใหม่ยกเครื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการเดินทาง และมอบจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยไม่ว่าจะบนถนน หรือบนเส้นทางออฟโร้ด โดยในปีนี้ เราได้ปรับปรุงให้ Pan America™ 1250 Special และ Pan America™ 1250 มีหน้าจอ TFT ที่ชัดเจนขึ้น เพื่อการมองเห็นข้อมูลของรถต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และขยายเวลาควบคุม Vehicle Hill Hold Control ภายใต้สภาวะปกติจาก 10 วินาทีเป็น 3 ถึง 5 นาที และพิเศษสำหรับ Pan America™ 1250 Special คือตัวเลือกสีใหม่อย่าง Fastback Blue/White Sand

ท่านสามารถชมภาพที่มีความคมชัดสูงที่ลิงค์นี้ โดยกรุณาอ้างอิง Harley-Davidson® เมื่อท่านนำรูปเหล่านี้ไปใช้

ติดตามเรื่องราวและอัปเดตต่าง ๆ จาก Harley-Davidson® ในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ได้โดยการติดตาม Harley-Davidson®  ตามช่องทางต่างๆ ด้านล่างนี้

www.harley-davidson.com

FB: @HarleyDavidsonAsia

IG: @HarleyDavidson_Asia

YT: Harley-Davidson Asia 

Harley-Davidson® ยืนหยัดเพื่อการผจญภัยที่ไม่มีวันสิ้นสุดและจิตวิญญาณแห่งอิสระ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่น สำหรับปี 2022 รวมทั้งอุปกรณ์การขับขี่ อุปกรณ์เสริมสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ และสินค้าอื่น ๆ ได้ที่ H-D.com