– BYTON เปิดตัว BYTON M-Byte ในงาน IAA ที่แฟรงก์เฟิร์ต
– จอแสดงผลขนาด 48 นิ้วของ M-Byte เป็นจอขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในประเภทรถที่ผลิตเพื่อใช้งานจริง
– BYTON เตรียมปิดการระดมทุน Series C มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์

BYTON แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม ได้ประกาศเปิดตัว BYTON M-Byte ที่งาน IAA Frankfurt พร้อมห้องคนขับ M-Byte สุดล้ำโดยมีจอแสดงผลโค้งขนาด 48 นิ้ว “ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก” อยู่ตรงกลาง BYTON เติมเต็มคำสัญญาของการใช้ปรัชญาการทำงานที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยผู้ใช้สามารถสั่งการจอแสดงผลผ่านแผงแท็บเล็ตฝั่งคนขับขนาด 7 นิ้ว, แผงแท็บเล็ตฝั่งผู้ขับขี่ร่วมขนาด 8 นิ้ว, การสั่งงานด้วยท่าทาง, คำสั่งเสียง (ร่วมมือกับ Amazon Alexa) และปุ่มกด

BYTON M-Byte มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 72 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) (360 กิโลเมตร / 224 ไมล์ ตามมาตรฐานทดสอบ WLTP) และรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง (วิ่งได้ 460 กิโลเมตร / 286 ไมล์) ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังนั้นจะมาพร้อมขุมกำลังขนาด 200 กิโลวัตต์ (kW) ขณะที่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าขนาด 150 กิโลวัตต์เพิ่มเข้ามา รถยนต์มาพร้อมตัวชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับที่รองรับการชาร์จได้สูงถึง 22 กิโลวัตต์ และรองรับการชาร์จเร็วผ่านไฟฟ้ากระแสตรงได้ถึง 150 กิโลวัตต์ ซึ่งทำให้สามารถชาร์จไฟเพียงพอสำหรับวิ่งระยะทาง 100 กิโลเมตร / 62 ไมล์ ได้ในระยะเวลาเพียง 10 นาที

BYTON M-Byte เป็นรถรุ่นแรกของบริษัทที่ผลิตในโรงงานตัวเองในเมืองหนานจิง ประเทศจีน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 45,000 ยูโร (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเงินอุดหนุน) พร้อมด้วยพื้นที่ที่มากกว่า ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่เข้าถึงได้และใช้งานได้ในทุกวัน

BYTON วางแผนที่จะเริ่มการผลิตสำหรับตลาดจีนภายในกลางปี 2563 และพร้อมเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในยุโรปและอเมริกาเหนือในปี 2563 และจะเปิดตัวสู่ทุกตลาดในปี 2564

BYTON ใกล้จะปิดการระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยนักลงทุน เช่น FAW Group ได้ลงนามในข้อตกลงลงทุนในรอบ Series C กับ BTYON ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีนักลงทุนรายอื่น ๆ ให้ความสนใจด้วย เช่น กองทุนการลงทุนในอุตสาหกรรมของเทศบาลเมืองหนานจิง

เกี่ยวกับ BYTON

BYTON มีเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ระดับพรีเมียมที่มีจุดเริ่มต้นในจีนและเข้าถึงได้ทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ที่รับผิดชอบทั่วโลก ฐานการผลิตอัจฉริยะ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอยู่ในเมืองหนานจิง ประเทศจีน ขณะที่สำนักงานใหญ่ในอเมริกาเหนือที่มุ่งมั่นให้กับประสบการณ์ใช้รถอัจฉริยะ การขับขี่อัตโนมัติ การผสมผสานระบบรถยนต์ทั้งหมด และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ นั้นตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ ส่วนศูนย์กลางแนวคิดและการออกแบบรถยนต์ของบริษัทตั้งอยู่ในมิวนิก นอกจากนี้ BYTON ยังมีสำนักงานในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง เพื่อดูแลด้านกิจการภายนอก การตลาด การขาย การออกแบบ และนักลงทุนสัมพันธ์อีกด้วย