– ทราวิส คัง ซีอีโอสากลของเน็กเซ็นไทร์ ทำพิธีเปิดพร้อมกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสสำคัญครั้งนี้
– เน็กเซ็นไทร์ จัดตั้งเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาและโรงงานผลิตทั้ง 4 แห่งทั่วโลกเสร็จสมบูรณ์แล้ว เตรียมพร้อมก้าวสู่ยุค “Global Nexen”
เน็กเซ็นไทร์ (Nexen Tire) ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลก มีความยินดีที่จะประกาศว่า บริษัทได้ทำพิธีตัดริบบิ้นเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ในยุโรปอย่างเป็นทางการ ณ เมืองซาเทค สาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันพุธที่ 28 สิงหาคม เวลา 10.00 น.
พิธีเปิดครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้สโลแกน “The New Wave for the Future” และถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุค “Global Nexen” อย่างเต็มตัว โดยมีแขกกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน อาทิ ทราวิส คัง ซีอีโอสากลของเน็กเซ็นไทร์, แปเตอร์ ออคโค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของสาธารณรัฐเช็ก, โอลดริช บูเบนิเซค ผู้ว่าราชการเมืองอูสตีนัดลาเบม, มุนซึงฮยอน เอกอัครราชทูตเกาหลีประจําสาธารณรัฐเช็ก, ซาเดตซ์ ซเดนกา ฮามูโซวา นายกเทศมนตรีเมืองซาเทค รวมถึงตัวแทนจากบริษัท OE และ RE พันธมิตรทางธุรกิจ สื่อมวลชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่และพนักงานก่อสร้าง บรรดาแขกผู้มีเกียรติได้ร่วมฉลองความสำเร็จในการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาและโรงงานผลิตทั้ง 4 แห่งทั่วโลก พร้อมกับแบ่งปันข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์และเทคโนโลยีอันโดดเด่นของเน็กเซ็นไทร์
ทราวิส คัง ซีอีโอสากลของเน็กเซ็นไทร์ กล่าวว่า “การเปิดโรงงานในยุโรปจะทำให้เน็กเซ็นไทร์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตรถยนต์ในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราตระหนักถึงความสำคัญของการใกล้ชิดกับลูกค้า จึงตัดสินใจสร้างฐานการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างทันท่วงทีและยืดหยุ่นมากขึ้น ในฐานะผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำของเกาหลีซึ่งสั่งสมความรู้และเทคโนโลยีมาอย่างยาวนานถึง 77 ปี เราตั้งเป้าว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลก ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ และสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์”
หลังเสร็จสิ้นพิธีตัดริบบิ้นเปิดโรงงาน แขกผู้มีเกียรติได้เยี่ยมชมโรงงานใหม่และทำความรู้จักกับ Smart Factory ซึ่งมีข้อบกพร่องในการผลิตเป็นศูนย์ (zero defect) เพราะใช้ระบบปฏิบัติการที่สามารถตรวจพบทุกจุดบกพร่องได้ล่วงหน้า
โรงงานแห่งใหม่นี้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 และทำเลที่ตั้งอันเหมาะสมทำให้สามารถเข้าถึงตลาดใหญ่ๆ ในยุโรปอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตอันสมบูรณ์แบบที่มีทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และ Smart Factory ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลกตามเป้าหมายของบริษัท