ในอดีตการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ใช้วิธีที่เรียกว่าเติบโตก่อน แล้วเก็บกวาดทีหลัง โดยมีการมุ่งไปในเรื่องของการสร้างผลผลิต และขยายการเติบโตของธุรกิจเป็นหลักมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรมีการออกมารณรงค์ให้ประเทศไทยออกจากการพัฒนาแบบสีเทา มาเป็นการพัฒนาแบบสีเขียวโดยพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับนโยบายทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายไปมาก ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านของมลพิษ ฝุ่น ควันต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น และไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ

ในด้านของธุรกิจรับสร้างบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ต้องใช้ทรัพยากรในด้านต่าง ๆ เข้ามาก่อสร้างให้กับผู้บริโภค เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวมาโดยตลอด และพยายามที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตั้งแต่การออกแบบบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุที่ไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการรณรงค์ให้ไซต์ก่อสร้าง มีการควบคุมมลพิษและฝุ่น ในการก่อสร้างอย่างมีหลักการ “เราพยายามรณรงค์ในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ล่าสุดเราทำโครงการ สร้างบ้าน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการลงนาม MOU เชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สร้างสังคมและเศรษฐกิจแบบสีเขียวร่วมกัน”

นางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

นางศิริพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กำลังพัฒนาโมเดลในแบบ “องค์กรสีเขียว” มุ่งที่จะเชิญชวน และสร้างกรอบของการพัฒนาร่วมกันภายใต้โครงการ “สร้างบ้าน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี” โดยเชิญชวนสมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน รวมถึงผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง เข้าร่วมโครงการนี้ร่วมกัน โดยในขั้นตอนแรกจะเริ่มต้นที่การควบคุมงานก่อสร้างตามไซต์งานต่าง ๆ ก่อน มุ่งเน้นไปที่เรื่องของการลดฝุ่นควันในอากาศ รวมถึงเรื่องการรักษาความสะอาด และการจัดการระบบขยะภายในไซต์งานให้มีความสะอาดเรียบร้อย

ล่าสุด สมาคมฯ ได้มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาซึ่งประกอบไปด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มาจัดทำWorkshop ร่วมกัน เพื่อสร้างมาตรฐานกลางในเรื่องของการบริหารสิ่งแวดล้อมที่ดีในไซต์งาน เพื่อให้สมาชิกสมาคมฯ มีแนวทางในการบริหารเรื่องมลพิษ และความสะอาดในไซต์งานให้ไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นหากสมาชิกมีการพัฒนาและปรับปรุงไซต์งานให้ได้ตามมาตรฐานแล้วก็สามารถส่งไซต์งานที่คาดว่าได้มาตรฐานเข้ามาให้คณะกรรมการสมาคมฯพิจารณา หลังจากที่ไซต์งานดังกล่าวผ่านการพิจารณา สมาคมฯ จะมีการออกหนังสือรับรอง รวมถึงการมอบตรา “HBA SAVE สร้างบ้านสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี” ให้กับสมาชิกที่สามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่อไป “ตอนนี้มีสมาชิกสมาคมฯ ให้ความสนใจเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เพราะทุกบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ปัจจุบันนอกจากเรื่องไซต์งานแล้ว สมาชิกสมาคมฯ เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเข้าไปด้วย ทั้งในด้านการของการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่เข้ามาปลูกสร้างบ้านได้ในเวลาเดียวกัน” นางศิริพร ให้ความเห็นว่า ตอนนี้ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ต้องปรับตัวในหลายๆ ด้าน เรื่องของสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องกระตุ้น และชักชวนสมาชิกภายในสมาคมฯ ให้เห็นความสำคัญก่อน หลังจากนั้นจะเพิ่มความเข้มข้นด้วยการรณรงค์ให้บริษัทรับสร้างบ้านอื่น ๆ เห็นความสำคัญและปฏิบัติร่วมกันต่อไป โดยในอนาคต ทางสมาคมฯ คาดหวังว่า จะสามารถเข้าสู่การพัฒนาในรูปแบบ “องค์กรสีเขียว” ให้มีความสมบูรณ์และเต็มรูปแบบมากขึ้นต่อไป