• โรลส์-รอยซ์ นำเสนอยนตรกรรมครบทุกสายพันธุ์เป็นครั้งแรก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40
  • ยนตรกรรม แฟนธอม, โกสต์, เรธ แบล็ค แบจ, ดอว์น และ คัลลิแนน ยกขบวนมาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอระดับอัลตราลักชัวรี ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของแบรนด์
  • โรลส์-รอยซ์ ทุกรุ่น สะท้อนนวัตกรรมของรถยนต์สั่งผลิตพิเศษ (Bespoke)

ที่โดดเด่นสง่างาม ตอกย้ำความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศในงานฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส

  • ยลโฉมคอลเลกชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากการร่วมงานกันระหว่าง โรลส์-รอยซ์ และคุณทัตวร สุกัณศีล เซเลบริตี้และแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไทย กับผลงานเสื้อผ้าออกแบบพิเศษ 5 ชุด ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์อันไม่ซ้ำใครของ โรลส์-รอยซ์ แต่ละรุ่น

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยกทัพยนตรกรรมสุดหรูแบบ ‘Full Range’ จัดแสดงในบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกบนเวทียานยนต์อันโด่งดังระดับภูมิภาคนี้ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา โรลส์-รอยซ์ ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น ด้วยยอดขายทั่วโลกต่อปี สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นปีที่บริการสั่งผลิตพิเศษ ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในปีนี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ยังคงเดินหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอการออกแบบอันยอดเยี่ยม สำหรับไลฟ์สไตล์อันหรูหราเหนือระดับ ที่คู่ควรแก่ลูกค้ากลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) ในประเทศไทย

เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงอัตลักษณ์อันแตกต่างของยนตรกรรมแต่ละรุ่น โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ได้จับมือกับเซเลบริตี้และแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไทย คุณทัตวร สุกัณศีล ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ แบรนด์ VVON SUGUNNASILในการออกแบบและสรรสร้างเสื้อผ้าคอลเลกชั่นพิเศษจำนวน 5 ชุด สะท้อนบุคลิกของรถยนต์แต่ละรุ่น ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาให้แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ การใช้งาน และโอกาสต่างๆ อย่างไร้ที่ติ

มร. เอียน แกรนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านอัลตราลักชัวรีระดับโลก เห็นได้จากยอดขายในปี 2561 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์อันยาวนานถึง 115 ปีของแบรนด์ ในส่วนของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ก็นับเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่นำไปสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ นอกจากนั้น ปัจจุบันเรามี คัลลิแนนเ เพิ่มเข้ามาในพอร์ทโฟลิโอ ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้รวมรถยนต์ครบทุกสายพันธุ์ มาจัดแสดงในงานนี้ ขณะที่ โรลส์-รอยซ์ กำลังเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง กลุ่มลูกค้าอายุน้อย ทั้งในไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ให้ความสนใจในแบรนด์มากขึ้น โดยเฉพาะยนตรกรรมรุ่น คัลลิแนน และ แบล็ก แบจ”

นายสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจและน่าดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะได้จัดแสดงรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ครบทั้ง 5 รุ่นพร้อมกันในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่40 นอกจากนี้ เรายังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับคุณทัตวร สุกัณศีล ในการนำเสนอผลงานการออกแบบล่าสุดของเขา คู่กับรถยนต์แต่ละรุ่นของเรา ปัจจุบัน โรลส์-รอยซ์ มีผลิตภัณฑ์ Bespoke ที่หรูหราเหนือระดับอย่างแท้จริง เพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า และเรามั่นใจว่าแบรนด์ของเราในไทย จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโชว์รูม โรลส์รอยซ์ มากถึง 4 แห่ง คือ โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ โรลส์รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส พระราม 3, โรลส์รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส บูทิค โชว์รูม ชั้น 2 สยามพารากอน, โรลส์-รอยส์ เอ็กซ์คลูซีฟ โชว์เคส ชั้น 1 ไอคอนสยาม และ โรลส์รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส บูทิค สตูดิโอ ภูเก็ต แสดงให้เห็นถึงความสนใจในยนตรกรรมกลุ่มอัลตราลักชัวรีของลูกค้าในไทยได้เป็นอย่างดี

แฟนธอม สัญลักษณ์แห่งความหรูหราขั้นสูงสุด

รถที่จัดได้ว่าเป็นราชาแห่งยนตรกรรมในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ได้แก่ โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม เจเนอเรชันที่ 8 ที่มาในโทนสีกันเมทัล (Gunmetal) และสีเงิน (Silver) พร้อมการตกแต่งภายในด้วยโทนสีซีเชล(Seashell) และสีน้ำเงินกรมท่า (Navy Blue) ตัดกันอย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์สีเปียโน แบล็ค (Piano Black) ซึ่ง แฟนธอม นับเป็นยนตรกรรมเรือธงในสายพันธุ์ทั้งหมดของ โรลส์-รอยซ์ ดังสมญานามที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน

และเป็นไอเท็มหายาก ซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกแห่งความหรูหรา

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ วี12 ทวินเทอร์โบ ที่มีความนุ่มนวลและรังสรรค์ด้วยสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) โครงสร้างอะลูมิเนียมถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แฟนธอม คือ คำกำจัดความที่ดีที่สุด ของนวัตกรรมการขับที่นุ่มนวลเหมือนพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) ของ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งมอบสัมผัสและประสบการณ์ความนุ่มเงียบ สะดวกสบาย และหรูหราขั้นสูงสุด

แฟนธอม ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมีอินเตอร์เฟสที่เป็นดิจิตัลทั้งหมด ระบบควบคุมที่ใช้งานง่าย และชุดฟังก์ชันด้านความปลอดภัยต่างๆ สำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร เทคโนโลยีไฟเลเซอร์ได้ถูกนำมาใช้กับไฟหน้ารถ ในขณะที่ระบบกล้อง 3 มิติ บนกระจกหน้ารถจะประเมินสภาพความขรุขระของผิวถนนเบื้องหน้า และสั่งการไปยังระบบช่วงล่างถุงลมทั้ง 4 จุด ให้ปรับสภาพกว่า 1,000,000 ครั้ง/วินาที เพื่อเตรียมรับมือกับการกระแทกและพื้นผิวขรุขระทุกรูปแบบ ผลลัพธ์คือ ความนุ่มนวลแห่งการขับเคลื่อน เสมือนลอยอยู่บนพรมวิเศษ

นอกจากนั้น แฟนธอม ก็เป็นเสมือนผ้าใบผืนใหญ่ ที่พร้อมเปิดรับการแสดงศักยภาพของงานสั่งผลิตพิเศษ ภายใต้จินตนาการไร้ขอบเขต ให้กับรถยนต์อัลตราลักชัวรีของตนเอง เช่น ห้องโดยสารของ แฟนธอม คันนี้ ติดตั้งเส้นไฟเบอร์ออฟติกแอลอีดีกว่า1,340 จุด บนเพดาน เพื่อสรรสร้างแสงดาวระยิบระยับของท้องฟ้ายามราตรี หรือที่รู้จักกันในนาม Starlight Headliner อันเป็นเอกลักษณ์

โกสต์ ราชาแห่ง Business Limousine

โกสต์ ยังคงเป็นฐานกำลังสำคัญของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศไทย โดยเป็นสัญลักษณ์ที่ป่าวประกาศการมาถึงของนักธุรกิจและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ผู้ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความมั่งคั่งลูกใหม่ จากการบรรลุเป้าหมายความสำเร็จของตนเอง โกสต์ ซีรีส์ II ตัวถังสีแบล็คเคิร์สช์ (Black Kirsch) พร้อมด้วยฝากระโปรงรถพื้นผิวซาตินสีเงิน (Silver) ประกอบกับ 2 โทนสีในห้องโดยสาร คือ ดำและสีครีมไลท์ (Crème Light) ที่เข้ากันกับแผงหน้าปัดสีมะฮอกกานี (Mahogany)

เส้นสายตัวถังอันงามสง่า พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ สะกดทุกสายตาเมื่อ โกสต์ โลดแล่นบนท้องถนนในกรุงเทพฯ ในขณะที่ผู้โดยสารอิ่มเอมจากความหรูหราสะดวกสบาย โกสต์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ 6.6 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีแรงบิดมหาศาล สามารถเร่งความเร็วได้อย่างราบรื่นและฉับไว ขณะที่ช่วงล่างถุงลม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการขับที่นุ่มนวลราวกับพรมวิเศษ

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้, ไม้ และโลหะคุณภาพสูง พร้อมฟังก์ชันความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ที่จะทำให้การเดินทางไกลไม่น่าเบื่อ ผสานสัญญานไวไฟบนรถ ทำให้ โกสต์ ซีรีส์ II เป็นเสมือนห้องรับรองสุดหรู ที่ผู้โดยสารสามารถทำงานหรือดูแลธุรกิจระหว่างการเดินทาง ขณะที่ระบบ Satellite Aided Transmission (SAT) ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนของรถ พร้อมปรับการตอบสนองให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ เพื่อการขับที่นุ่มนวลและเป็นเลิศ

เรธ แบล็ค แบจ อีกมิติแห่งเสน่ห์อันลุ่มลึกของ โรลส์รอยซ์

เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์อันหรูหราที่ปรับเปลี่ยนอยู่สม่ำเสมอ ของกลุ่มลูกค้าอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จสูง โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ผลิตยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่มีสไตล์ชัดเจนยิ่งขึ้น กับรุ่นย่อย ‘แบล็ค แบจ’ โดยนำเสนอตัวอย่างของนิยามแห่งความน่าค้นหา ด้วยยนตรกรรม เรธ แบล็ค แบจ สีแอนธราไซต์ (Anthracite) เน้นความสง่างามน่าเกรงขาม ห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีขาวและสีแอนธราไซต์ (Anthracite) ผสานแผงวีเนียร์ Technical Fibre

เรธ แบล็ค แบจ เป็น โรลส์-รอยซ์ ที่ทรงพลังมากสุด เครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ 6.6 ลิตร ทวินเทอร์โบ 632 แรงม้า แรงบิด 870 นิวตันเมตร และท่อไอเสียแบบพิเศษ มีวาล์วเปิด-ปิดตามรอบเครื่องยนต์ ก็ช่วยให้ขับเคลื่อนอย่างเงียบเชียบในรอบต่ำ และดังกังวานอย่างเร้าใจเมื่อกดคันเร่ง

เรธ แบล็ค แบจ อาจมีรูปลักษณ์ดุดัน แต่ห้องโดยสารก็แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ โรลส์-รอยซ์ อาทิ เส้นใยอะลูมิเนียมเกรดที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.014 ม. ถักทอและผสมผสานกับคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อสร้างแผงหน้าปัดไฟเบอร์แบบใหม่ สำหรับ แบล็ค แบจ มาพร้อมความพิเศษอื่นๆ ที่มีเฉพาะรุ่นนี้ คือ สัญลักษณ์ ‘สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี’ ชุบโครเมียมรมดำ, ปลายท่อไอเสียรมดำ, ล้อแม็กคาร์บอนไฟเบอร์ และอื่นๆ

ดอว์น ยนตรกรรมเปี่ยมเสน่ห์อันเย้ายวน

โรลส์-รอยซ์ ดอว์น รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง ระดับอัลตราลักชัวรี อันโดดเด่นเย้ายวน ตัวถังสีเงิน ตัดกับฝากระโปรงรถสีน้ำเงิน ห้องโดยสารโทนสีซีเชล (Seashell) และน้ำเงินกรมท่า ซึ่ง ดอว์น รับช่วงต่อชื่อเสียงเรียงนามจาก โรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ ดอว์น รุ่นปี 1952 รถสั่งทำพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับการขับรถเปิดประทุน ที่มีความหรูหราเหนือระดับ

รถคันนี้ยังคงความรื่นรมย์และสะดวกสบายไว้อย่างครบถ้วน ติดตั้งเบาะหลังขนาดมาตรฐาน 2 ดำแหน่ง โดยไม่เบียดเบียนพื้นที่วางขาเหมือนรถเปิดประทุนส่วนใหญ่ เส้นสายอันงดงาม ทำให้รถดูปราดเปรียวคล่องแคล่วอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานแผงหน้าปัดอันโดดเด่นและโครงสร้างตัวถังออกแบบใหม่ ให้แข็งแกร่งแม้เป็นรถเปิดประทุน

ดอว์น มอบความสะดวกสบาย ความหรูหรา และความเงียบสงบขั้นสูงสุดให้ผู้โดยสาร ตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ หลังคาผลิตจากผ้าซ้อนกัน 6 ชั้น เย็บตะเข็บแบบ French Seam ไร้ที่ติ ห้องโดยสารจึงเงียบสนิทไม่ต่างจากรถหลังคาแข็ง ผสานการคัดสรรวัสดุชั้นเลิศ ให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายในห้องโดยสารสุดหรู

คัลลิแนน โรลส์รอยซ์ แห่งเอสยูวี

คัลลิแนน คือ สมาชิกใหม่ล่าสุดที่ถูกเพิ่มเข้ามาในพอร์ทโฟลิโอของ โรลส์รอยซ์ เป็นสิ่งเติมเต็มพันธกิจของแบรนด์ที่ต้องการตอบสนองต่อความชอบและไลฟ์สไตล์ความหรูหราที่แตกต่างของลูกค้า โรลส์รอยซ์ แห่งเอสยูวีคันนี้ พร้อมสร้างนิยามใหม่ของการเดินทางอย่างมีระดับ ด้วยการขับสบาย…ไปทุกที่ เป็นดังยานยนต์ที่เหมาะสำหรับจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย โดยยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ และความหรูหรา

เอสยูวีคันแรกในประวัติศาสตร์ ของ โรลส์-รอยซ์ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ร่วมกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา ระบบเลี้ยว 4 ล้อ ไฟหน้าเลเซอร์ และระบบความปลอดภัย เพื่อสร้างสรรค์ โรลส์-รอยซ์ ที่มีความอเนกประสงค์และทันสมัยที่สุด โหมด ‘Off-road’ ช่วยเพิ่มความสูงใต้ท้อง สามารถลุยน้ำได้ดี และช่วงล่างถุงลมก็ช่วยให้ขับเคลื่อนบนเส้นทางขรุขระได้อย่างนุ่มนวล เหมือนอยู่บนพรมวิเศษ

คัลลิแนน ตัวถังสีอินฟินิตี้ แบล็ค (Infinity Black) คาดข้างด้วยโค้ชไลน์สีส้มแมนดาริน (Mandarin) ห้องโดยสารผสมผสาน 3 โทนสี คือ ซิวาโร เกรย์ (Scivaro Grey), ดำ และส้มแมนดาริน ประดับแผงวีเนียร์จากไม้เชฟรอน เบาะ 4ตำแหน่งแยกอิสระ ด้านหลังคั่นด้วยคอนโซลกลาง ภายในเป็นตู้แช่พร้อมชุดเครื่องดื่ม ทำให้ คัลลิแนน เป็นเสมือนเพชรน้ำงามอันเลอค่าของ โรลส์รอยซ์

ทัพยนตรกรรมที่แข็งแกร่งที่สุดของ โรลส์รอยซ์

วิสัยทัศน์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่นำเสนอในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 เป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นเลิศของแบรนด์ ที่มีต่อการผลิตรถยนต์ Bespoke โดยรับฟังความต้องการและความปรารถนาของลูกค้าอย่างดีที่สุด ส่งผลให้ โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม, โกสต์, เรธ, ดอว์น และ คัลลิแนน เป็นทัพยนตรกรรมหรูหรา สง่างาม และทรงพลังที่สุด